5 เรื่องที่ควรคิด ก่อนจะโปะค่าบ้าน

2,064 0

การโปะค่าบ้าน เป็นวิธีการที่ช่วยให้ระยะเวลาการผ่อนบ้านลดลง สามารถปลดภาระหนี้ได้เร็วกว่ากำหนด เนื่องจากธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้บ้านเป็นแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) โดยดอกเบี้ยที่จ่ายจะคิดจากยอดเงินต้นที่คงค้างอยู่ ฉะนั้นยิ่งเราโปะหนี้บ้านมากเท่าไหร่ ยอดเงินต้นที่นำมาคิดดอกเบี้ยจะลดลงเท่านั้น ส่งผลให้ดอกเบี้ยลดลงตาม และหนี้บ้านเราก็หมดเร็วลงเช่นกัน แม้จะเป็นวิธีการช่วยปลดหนี้ได้เร็ว แต่ก่อนจะโปะบ้าน มีสิ่งที่ต้องคิดก่อนดังนี้ 

  1. ตรวจสอบสัญญาเงินกู้ก่อนว่าในเงื่อนไขระบุค่าธรรมเนียมการปิดหนี้ก่อนครบสัญญากำหนดกู้ไว้หรือไม่ เพราะส่วนใหญ่หากปิดบัญชีเงินกู้ก่อน 3 ปีแรกนับแต่วันทำสัญญา ลูกหนี้จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมจากการชำระหนี้/ยกเลิกวงเงินกู้ในอัตราร้อยละ 3 ของวงเงินกู้ตามที่ระบุไว้ในสัญญา เพราะฉะนั้นหากอยากปิดหนี้ควรคิดปิดหลังจาก 3 ปีแรกจะคุ้มกว่า 
           
  2. โปะค่าบ้านแล้วจะคุ้มไหมในแง่ของการลงทุน โดยให้คิดเปรียบเทียบง่าย ๆ ว่าหากนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนผลตอบแทนที่ได้จะน้อยหรือมากกว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ถ้าน้อยกว่าก็ไม่ควรนำไปลงทุน แต่ควรเอาไปโปะหนี้จะดีกว่า 
           
  3. มีเงินสำรองยามฉุกเฉินเพียงพอแล้วหรือไม่ ลองคิดดูว่าหากนำเงินก้อนนี้ไปโปะหนี้ แล้วมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น เช่น เจ็บป่วย ไม่สามารถทำงานได้ คุณจะเดือนร้อนหรือไม่ ดังนั้นก่อนโปะค่าบ้านควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือนจะปลอดภัยที่สุด 
           
  4. ภาระผ่อนหนี้ต่อเดือนของคุณไม่ตึงมือหรือไม่ หากจะนำเงินไปโปะหนี้ เพราะถ้าเงินใช้จ่ายและภาระผ่อนหนี้ต่อเดือนไม่ค่อยคล่องมืออยู่แล้ว ก็ไม่ควรนำเงินไปโปะค่าบ้าน โดยมีคำแนะนำว่ารายจ่ายผ่อนหนี้รวมถึงเงินโปะหนี้บ้านในแต่ละเดือนไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ 
           
  5. ความมั่นคงของอาชีพการงานเป็นอย่างไร หากสถานการณ์บริษัทของคุณไม่สู้ดี มีโอกาสถูกเลิกจ้าง หรือถ้าเป็นเจ้าของกิจการลองประเมินดูแล้วรายได้ที่เข้ามาไม่สม่ำเสมอ ก็ไม่ควรรีบโปะค่าบ้าน แต่เก็บเงินไว้ก่อนดีกว่า 

หากคิดดูแล้ว 5 ข้อนี้คุณไม่มีปัญหา ก็สามารถโปะค่าบ้านเพื่อให้ปลอดหนี้ ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงๆ กันอีกต่อไปได้เลย