'ประกันภัยบ้าน' ภูมิคุ้มกันความเสี่ยงของคนมีบ้าน มีไว้อุ่นใจกว่า

3,346 0

ประกันภัยบ้าน มีความสำคัญไม่ต่างจากการทำประกันชีวิต ที่ช่วยคุ้มครองความเสี่ยงให้เราได้ดีที่สุด เนื่องจากจะชดเชยความเสียหาย หากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นกับบ้าน เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ระเบิด ฯลฯ ทำให้มีเงินมาแบ่งเบาหรือรับมือกับความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับบ้านที่ยังไม่หมดภาระหนี้สิน


ประกันภัยบ้านแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้

1. ประกันอัคคีภัย (กฎหมายบังคับ)
เป็นประกันภัยภาคบังคับที่บ้านใหม่ทุกหลังต้องมี โดยธนาคารที่ให้สินเชื่อบ้านมักจะให้ทำทันที เพื่อเป็นหลักประกันว่าหากเกิดเหตุขึ้นกับบ้าน ธนาคารจะยังคงได้รับเงินที่ปล่อยสินเชื่อไปแล้วคืนจากบริษัทประกัน ซึ่งจะคุ้มครองเหตุไฟไหม้ ครอบคลุมทั้งที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น ไฟป่า ฟ้าผ่า หรือจากเหตุสุดวิสัย เช่น แก๊สระเบิด ไฟฟ้าลัดวงจร หรือความเสียหายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจะให้ความคุ้มครองระยะสั้นเช่น 1 ปี หรือ 2-3 ปี ค่าเบี้ยประกันไม่เกิน 0.1% ของความคุ้มครอง

2. ประกันภัยพิบัติ (กฎหมายไม่บังคับ)
คุ้มครองความเสียหาย สูญเสียของตัวบ้านหรือทรัพย์สินอันเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือเหตุภัยพิบัติอื่นๆ ที่คณะรัฐมนตรีประกาศว่าเป็นสถานการณ์ภัยพิบัติรุนแรง โดยให้ความคุ้มครองแบบจำกัดความรับผิด (Sub limit) คือไม่สามารถซื้อความคุ้มครองได้เต็มมูลค่าบ้าน โดยมีอัตราค่าเบี้ยประกันไม่เกิน 0.5% ของความคุ้มครอง

3. ประกันภัยคุ้มครองการโจรกรรม (กฎหมายไม่บังคับ)
ให้ความคุ้มครอง 2 ส่วน ได้แก่ ความสูญเสียต่อสินทรัพย์ที่เอาประกันและความสูญเสียต่อตัวอาคารที่เก็บทรัพย์สินซึ่งเกิดจากการโจรกรรม ให้ความคุ้มครองแบบปีต่อปี เหมาะสำหรับบ้านที่มีทรัพย์สินมูลค่าสูง หรืออยากได้รับความคุ้มครองสินทรัพย์สำคัญบางอย่าง

ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เตรียมความพร้อมรับมือเหตุไม่คาดคิด ที่อาจก่อความเสียหายให้กับบ้านด้วยการทำประกันภัยบ้าน ให้อุ่นใจกันดีกว่า แต่อย่าลืมเลือกความคุ้มครองหรือเงินชดเชยไม่ต่ำกว่า 70% ของมูลค่าทรัพย์ เพื่อให้ครอบคลุมความเสียหายส่วนใหญ่ได้