ปรับโครงสร้างหนี้ เพิ่มภูมิคุ้มกันช่วง COVID-19 ให้ชีวิตได้ไปต่อ

2,151 1

     ผู้ที่มีภาระหนี้สินแล้วเริ่มรู้สึกว่าจะผ่อนต่อไม่ไหว โดยเฉพาะภาระการผ่อนบ้าน ที่หนักหนาพอสมควร ‘ตลาดนัดบ้านมือสอง’ แนะให้เลือกเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ ก่อนที่จะกลายเป็นหนี้เสีย เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันช่วง COVID-19 กันก่อนจะสายเกินไป

     ปรับโครงสร้างหนี้คือ การเปลี่ยนเงื่อนไขการจ่ายหนี้ เพื่อให้เรายังสามารถจ่ายหนี้ได้โดยไม่ผิดนัดชำระ เพราะการผิดนัดชำระลูกหนี้อาจถูกคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระ และมีประวัติค้างจ่ายในเครดิตบูโร ซึ่งการปรับโครงการนี้มีหลายรูปแบบ ส่วนเราจะเหมาะแบบไหนให้พิจารณาตัวเองก่อนดังนี้
 

       1.จ่ายไหวแต่อยากลดภาระดอกเบี้ย  อาจขอปรับโครงสร้างหนี้เป็น

  • เปลี่ยนประเภทหนี้ จากหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงเป็นหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำลง โดยการเปลี่ยนประเภทหนี้นี้ คุณต้องมั่นใจว่าจะสามารถจ่ายค่างวดคืนตามกำหนดได้
           
  • รีไฟแนนซ์ เป็นการเปลี่ยนเจ้าหนี้จากรายเดิม แล้วไปขอกู้กับเจ้าหนี้รายใหม่ที่ให้เงื่อนไขที่ดีกว่า เช่น อัตราดอกเบี้ยถูกกว่า การเลือกวิธีนี้อาจต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนเจ้าหนี้ด้วย           
           

       2.จ่ายไหวบางส่วน อาจขอปรับโครงสร้างหนี้เป็น

  • ลดอัตราดอกเบี้ย เป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่รายรับลดลงไม่มาก โดยเป็นการขอลดดอกเบี้ยจากหนี้เดิมที่มีอยู่แล้ว ทำให้ภาระหนี้ลดลงบางส่วน 
           
  • พักชำระเงินต้น การพักชำระเงินต้นทำให้เราไม่ต้องจ่ายเงินต้น แต่ยังคงต้องจ่ายดอกเบี้ยตามเดิม ส่วนใหญ่สถาบันการเงินมักให้พักชำระเงินต้นประมาณ 3-6 เดือน แต่ผู้ที่เลือกใช้วิธีนี้ควรรู้ก่อนว่าอาจทำให้ภาระหนี้ในช่วงหลังการพักชำระหนี้เพิ่มขึ้น หรืออาจต้องขยายเวลาการชำระหนี้ และยังอาจมีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จากยอดเงินต้นที่ไม่ได้ลดลง ดังนั้นควรทำกาตกลงกับสถาบันการเงินให้ดีเกี่ยวกับการจ่ายคืนหลังการพักชำระ
           
  • ขยายเวลาชำระหนี้ คือการเพิ่มระยะเวลาในการจ่ายหนี้ ทำให้เราเป็นหนี้นานขึ้น แต่จำนวนผ่อนต่อเดือนลดลง โดยปกติสามารถขอขยายเวลาชำระหนี้ได้นานเป็นปี ทั้งนี้สถาบันการเงินอาจต้องดูอายุของลูกหนี้ เพื่อประเมินความสามารถในการจ่ายหนี้คืน ประกอบการพิจารณาด้วย
           

       3.มีเงินก้อนแต่ไม่พอปิดหนี้ทั้งหมด อาจขอปรับโครงสร้างหนี้เป็น

  • การปิดจบด้วยเงินก้อน หรือ Hair Cut โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการขอส่วนลดจากเจ้าหนี้แล้วจ่ายทั้งหมดเพื่อปิดบัญชี วิธีนี้สถาบันการเงินมักมีเงื่อนไขให้จ่ายครบในระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้นต้องมั่นใจว่ามีความสามารถเพียงพอ
           

       4.ไม่สามารถจ่ายไหวเลย อาจขอปรับโครงสร้างหนี้เป็น

  • พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย คือการหยุดจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยระยะเวลาหนึ่ง เช่น 3 เดือน 6 เดือน เมื่อครบกำหนดจะต้องจ่ายคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยในช่วงที่พัก เพราะดอกเบี้ยยังคงเดินอยู่ตลอดเวลาที่พักชำระ ซึ่งหากใกล้ครบกำหนดพักชำระแล้วยังมีรายรับที่ไม่พอจ่าย ให้เจรจากับสถาบันการเงินเพื่อขอความช่วยเหลืออื่นๆ อีกครั้ง

          
       การปรับโครงสร้างหนี้ที่มีให้เลือกหลายรูปแบบดังที่นำเสนอมานี้ ทำให้ลูกหนี้ต้องประเมินสถานการณ์ของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อจะสามารถเลือกการปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมกับตัวเองได้มากที่สุด จึงจะนับว่าช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้อย่างแท้จริง