SENA ชูบ้านโซลาร์รับมือค่าไฟฟ้าพุ่ง ดึงโมเดลบ้านพลังงานเป็นศูนย์ลดค่าใช้จ่าย

26 เม.ย. 2566 234 0

 

          เทรนด์ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ที่อยู่อาศัย อาคาร โรงงาน บูมต่อเนื่องรับค่าไฟฟ้าแพง “เสนาดีเวลลอปเม้นท์” ชูเรือธงโมเดล “บ้านพลังงานเป็นศูนย์” ขับเคลื่อนสู่เป้าหมายลดการใช้พลังงานในที่อยู่อาศัยไม่ต่ำกว่า 20% มั่นใจเดินมาถูกทางในการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ มุ่งสู่บ้านประหยัดพลังงานที่จะสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริง เผยวิจัยจุฬาฯ บ้านพลังงานเป็นศูนย์ติดโซลาร์ เวิร์กจริง! ช่วยลดค่าไฟได้สูงสุด 90% เตรียมเปิดบ้านต้นแบบเร็วๆ นี้

          ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ (SENA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ กล่าวว่า ท่ามกระแสรายจ่ายค่าไฟฟ้าคนไทยปรับตัวสูงขึ้น  ประกอบกับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ภาพรวมในปี 66 ได้ปรับขึ้นต่อเนื่อง และงวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค. 66) หลังจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศค่าไฟเฉลี่ยรวมไว้ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย และอยู่ระหว่างทบทวนให้ลดต่ำลงอีก แต่ก็ยังคงทรงตัวในระดับสูง ทำให้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) กำลังได้รับความสนใจอย่างจากทั้งภาคครัวเรือน อาคาร โรงงานต่างๆ เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าที่แพงและลดภาวะโลกร้อน

          ทั้งนี้ เสนาฯ ถือเป็นรายแรกของอสังหาฯ ที่เริ่มบุกเบิกพลังงาน โซลาร์ครบวงจรมากว่า 13 ปี ศึกษาและพัฒนาหมู่บ้านโซลาร์ฯรายแรกของไทย ปัจจุบันเสนาติดตั้งโซลาร์ให้ลูกบ้านทุกโครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และพื้นที่บริเวณส่วนกลาง ของคอนโดมิเนียม รวมทั้งสิ้น 47 โครงการ รวมมากกว่า 1,000 ครัวเรือน คิดเป็นการผลิตไฟฟ้ามากกว่า 100 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังมีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มอยู่ 2 แห่ง อ.วังม่วง จ.สระบุรี และโครงการโทรลุ้ยริมน้ำ จ.นครปฐม รวม 46.5 เมกะวัตต์

          โดยในปี 66 เสนาวางกลยุทธ์ทางธุรกิจพร้อมต่อยอดแนวคิดสู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยอัจฉริยะสมาร์ทโฮม โดยใช้โมเดล SENA HHP ZERO ENERGY HOUSE (ZEH) หรือบ้านพลังงานเป็นศูนย์ ซึ่งได้โนว์ฮาวจากพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป มาประยุกต์และปรับใช้กับโครงการบ้านเสนา ตั้งแต่ออกแบบเลือกวัสดุอุปกรณ์ภายในให้มีการใช้พลังงาน ลดลงหรือใกล้ศูนย์มากสุด เพื่อรองรับกลไกตลาดในปัจจุบันและอนาคตที่ผู้บริโภคจะเลือกที่อยู่อาศัยรับกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง

          “โมเดล ZEH ที่เรานำมาใช้ในโครงการบ้านเสนา โดยเริ่มจากโครงการบ้านเดี่ยวย่านรามอินทรา กม.9 และบางนา-กม.29 คาดว่าจะเปิดตัวต้นไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาระการใช้พลังงานให้กับลูกบ้านของเสนาได้ไม่ต่ำกว่า 20% นอกจากนี้ ยังมีจัดทำแอปพลิเคชัน SENA 360 เพื่อให้ลูกบ้านสามารถตรวจสอบการใช้พลังงาน แสงอาทิตย์ผ่านมือถือ นับเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกบ้าน มากยิ่งขึ้น”

          สำหรับการพัฒนาโครงการที่เหมาะสมตามแนวทาง ZEH ได้ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อวิจัยพัฒนาแนวทางการลดพลังงานภายในที่อยู่อาศัยให้เป็นตามไปเป้าหมาย ขณะนี้การวิจัยมีความคืบหน้าต่อเนื่องในการสร้างบ้านต้นแบบ โดยการนำวัสดุชนิดต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงาน และการวางระบบการบริหารจัดการโครงการ เพื่อให้สามารถลดการใช้พลังงานภายในโครงการและบ้านที่อยู่อาศัย

          จากผลวิจัยแบ่งผู้ที่ใช้ไฟฟ้าออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1. กลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าสูง โดยบ้านพลังงานเป็นศูนย์ (Zero Energy House) ที่ติดโซลาร์ สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ 55% เมื่อเทียบบ้านทั่วไป 2. กลุ่มที่ใช้ไฟปานกลาง บ้านพลังงานเป็นศูนย์ (Zero Energy House) ที่ติดโซลาร์ สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ 70% เมื่อเทียบบ้านทั่วไป และ 3. กลุ่มที่ใช้ไฟน้อย บ้านพลังงานเป็นศูนย์ (Zero Energy House) ที่ติดโซลาร์ สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ 90% เมื่อเทียบบ้านทั่วไป อย่างไรก็ดีทางเสนาพร้อมเดินหน้าวิจัยและพัฒนา เพื่อลดภาระการใช้พลังงานให้กับลูกบ้านได้ตามเป้าที่วางไว้

 

ที่มา: