PSHได้โรงพยาบาลหนุน กำไร9เดือนพุ่ง1.6พันล.

15 พ.ย. 2565 292 0

          PSH ประกาศไตรมาส 3/65 มีกำไรสุทธิ 319.16 ล้านบาท โต 87.3% หนุน 9 เดือนปีนี้โชว์กำไรสุทธิ 1,600.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% อานิสงส์รายได้ธุรกิจโรงพยาบาลพุ่ง 562.6% แตะ 777 ล้านบาท ขณะที่ S ไตรมาส 3/65 ฟื้นพลิกมีกำไร 44 ล้านบาท หนุน 9 เดือนแรกพลิกกำไร 97.93 ล้านบาท ส่วน SC ไตรมาส 3/65 ฟันกำไรสุทธิ 652.22 ล้านบาท โต 20%

          นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 619.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 330.56 ล้านบาท และมีรายได้รวม 6,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 6,091 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-กันยายน) บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,600.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,364.16 ล้านบาท และมีรายได้รวม 18,201 ล้านบาท ลดลง 6.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 19,380 ล้านบาท

          ทั้งนี้ กำไรสุทธิที่เติบโตขึ้น มาจากการบริหารต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ จากการใช้วัสดุก่อสร้างให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Value Engineering) รวมถึงธุรกิจโรงพยาบาลเริ่มได้รับประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) หลังจากการเปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งปี

          โดยมีรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลในไตรมาส 3/2565 จำนวน 330 ล้านบาท เติบโต 275.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาล 88 ล้านบาท คิดเป็น 4.8% ของรายได้รวม ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกบริษัทมีรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาล จำนวน 777 ล้านบาท เติบโต 562.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาล 117 ล้านบาท คิดเป็น 4.3% ของรายได้รวม ซึ่งรายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น รวมถึงการรับรู้รายได้แบบรวมจากบริษัท เทพธัญญภา จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเทพธารินทร์ แทนการบันทึกด้วยวิธีส่วนได้เสียตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นมา

          อย่างไรก็ตามรายได้รวมในช่วงงวด 9 เดือนปีนี้ที่ลดลง เป็นผลมาจากสภาพโดยรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก ส่งผลให้ผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย จึงชะลอการตัดสินใจซื้อ ขณะเดียวกันในช่วงที่มีการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมา

          นายอุเทน กล่าวต่อว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2565 บริษัทเชื่อว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2565 ทั้งยอดโอนกรรมสิทธิ์ และยอดขาย (Presale) โดยจะมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. การทยอยส่งมอบคอนโดมิเนียมที่เสร็จใหม่ในช่วงปลายไตรมาส 3/2565 จำนวน 2 โครงการ ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2565 มากขึ้น, 2. ในไตรมาส 4/2565 จะมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่และเริ่มทยอยส่งมอบอีก 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,266 ล้านบาท โดยเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2565 บริษัทยังคงไว้ที่ระดับ 33,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาบริษัทมียอดโอนกรรมสิทธิ์แล้ว 28,000 ล้านบาท และ ณ สิ้นไตรมาส 3/2565 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่า 13,300 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ประมาณ 50% ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ในปีถัดไป

          3. บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 4/2565 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,760 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์โฮม 7 โครงการ, บ้านเดี่ยว 3 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ จะเริ่มทยอยเปิดตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขาย (Presale) ทั้งปีให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย 31,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวมแล้ว 14,544 ล้านบาท

          นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาและวางแผนงานปี 2566 โดยเบื้องต้นในปีหน้าจะเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้นกว่าปี 2565 และมีแผนขยายเตียงภายในโรงพยาบาลวิมุติเพิ่มอีก 125 เตียง จากเดิมแผนเดิมที่จะขยายเพียง 100 เตียง (จากปัจจุบันที่มี 236 เตียง) เพื่อรองรับการเติบโตรวมไปถึงมีแผนขยายฐานผู้ป่วยประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น หรือฐานผู้ป่วยศักยภาพสูงประเทศอื่น ๆ

          ทองมา’ ลาออกจากซีอีโอ นายไพศาล รำพรรณ์ เลขานุการ PSH เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท PSH เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา มีมติรับทราบว่านายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ขอลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และประธานกรรมการบริหาร โดยมีผลเป็นการลาออกตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป โดยภายหลังการลาออกนายทองมาจะยังคงมีตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการบริษัท กรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน กรรมการกำกับการบริหารความเสี่ยง กรรมการบริหาร และกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม

          ขณะที่ภายหลังการลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ จะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร แทนนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ โดยนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ จะยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารต่อไป

          นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการบริหารใหม่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการบริหารของบริษัท ประกอบด้วย กรรมการ จำนวน 11 ท่าน ได้แก่ 1. นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร, 2. นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ รองประธานกรรมการบริหาร, 3. นายวิเชียร เมฆตระการ กรรมการบริหาร, 4. นายปิยะ ประยงค์ กรรมการบริหาร, 5. นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ กรรมการบริหาร, 6. นางสาวพรภัทร องนิธิวัฒน์ กรรมการบริหาร, 7. นายพรเทพ ศุภธราธาร กรรมการบริหาร, 8. นางสาวอังคณา ลิขิตจรรยากุล กรรมการบริหาร, 9. นางสาวสุรวีย์ ชัยธำรงค์กูล กรรมการบริหาร, 10. นายคเณศ กาญจนแก้ว กรรมการบริหาร และ 11. นางสาวมธุกร ศัลยพงษ์ กรรมการบริหาร

          S โชว์ Q3 พลิกกำไร 44 ล้าน นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 บริษัทพลิกมีกำไรสุทธิ 44.09 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 21.20 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,701 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,127 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 97.93 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 237.74 ล้านบาท และมีรายได้รวม 8,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 5,145 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการทยอยฟื้นตัวของธุรกิจ และการพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง

          สำหรับธุรกิจโรงแรมที่ดำเนินการผ่านบริษัทย่อยบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR พลิกฟื้นกลับมามีกำไรสุทธิเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 และเชื่อว่าในไตรมาส 4/2565 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2565 ซึ่งจะถูกผลักดันโดยผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของโรงแรมในประเทศไทย หลังจากเห็นการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวชัดเจนภายหลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

          SC กำไร Q3 เพิ่มขึ้น 20% นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 652.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 544.63 ล้านบาท และมีรายได้รวม 5,244.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,730.97 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,620.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,481.45 ล้านบาท และมีรายได้รวม 14,275.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 13,445.54 ล้านบาท

          โดยสัดส่วนรายได้ในช่วง 9 เดือน แบ่งเป็นรายได้จากการขาย 95% และเป็นรายได้ค่าเช่าและบริการ 5% โดยรายได้หลักจากการขาย จำนวน 13,593 ล้านบาท มาจากรายได้จากแนวราบ จำนวน 12,202 ล้านบาท เติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) หรือเติบโต 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และรายได้จากแนวสูง จำนวน 1,391 ล้านบาท

          ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทมียอดขาย (Presale) เติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ที่ 17,182 ล้านบาท หรือเติบโต 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งล่าสุดจากการเปิดจองครั้งแรกของบ้านซีรีส์ใหม่ของ 2 โครงการแนวราบ รวมมูลค่าโครงการ 3,700 ล้านบาท ในทำเลวิภาวดี-พหลโยธิน จากโครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด และเวนิว ไอดี ต่างมีผลตอบรับที่ดีมาก และสามารถสร้างยอดรวมกันได้แล้ว 600 ล้านบาท

 

ที่มา: