ILM เป๋าตุงออเดอร์ Q3 พุ่ง ใส่เกียร์เจาะงานโครงการ 

24 ส.ค. 2565 405 0

          ILM ดีมานด์ทะลักไร้ล็อกดาวน์หนุน Q3/2565 ฟอร์มเด่น พร้อมคอนเฟิร์มปีนี้รายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน แถมเดินเกมรับงานโครงการเพิ่ม อัพ Backlog จากเดิม 900 ล้านบาท

          นางกนกวรรณรัตน์ ศรีมณีศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายบัญชีและการเงิน และเลขานุการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลงานในไตรมาส 3/2565 น่าจะเติบโตอย่างชัดเจนจากช่วงเดียวกันปีก่อน หลัง ไม่มีปัจจัยลบเกี่ยวการปิดกั้นการเดินทาง และคำสั่งปิดศูนย์การค้า (ล็อกดาวน์) ดังในเช่นในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมกลับมาเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ นอกเหนือจากช่องทางสร้างรายได้ส่วนอื่นๆ

          ปีนี้รายได้ตามนัด

          อย่างไรก็ดี ในปี 2565 บริษัทเชื่อ รายได้จะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก หรือ ไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ประมาณ 8.4 พันล้านบาท หลังช่วงครึ่งแรกปีนี้ธุรกิจมีรายได้แล้ว 4.31 พันล้านบาท ประกอบกับประเมินแนวโน้ม ยอดขายในช่วงที่เหลือปีนี้ยังดีต่อเนื่อง ตลอดจนธุรกิจมีการออกสินค้าใหม่ๆ และ ขยายช่องทางสร้างรายได้เพิ่มเติมด้วย

          สำหรับแนวทางการบริหารงานปีนี้ ทาง ILM จะมุ่งให้ความสำคัญกับออกสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้หลากหลายยิ่งขึ้นและเน้นทำตลาดลูกค้าในกลุ่มระดับ “B” และ “B+” ซึ่งมีกำลังซื้ออยู่ในระดับที่สูงและมีความต้องการขยายตัวต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสำรอง (สต๊อก) สินค้าให้มากขึ้น เพื่อเป็นการบริหารจัดการต้นทุนของธุรกิจในอีกทางหนึ่ง

          ลุยรับงานโครงการ

          นอกจากนี้ ทาง ILM ยังจะหันมา ขยายฐานการรับงานในกลุ่มผู้ประกอบการ พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมเพิ่มเติม หลังมอง แนวโน้มจะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นหลังจากนี้ จากปัจจุบันที่บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ส่วนนี้ราว 900 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นโอกาสสร้างรายได้ให้กว้างขึ้นด้วย

          ส่วนเรื่องการเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติม อาทิ “INDEX LIVING MALL” สาขาลาดกระบัง ปัจจุบันถือว่าคืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว คาดน่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4/2565 ตลอดจน บริษัทยังมีแนวทางพัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ ในทำเลกรุงเทพกรีฑา เพื่อพัฒนาเป็นโครงการ Little Walk พื้นที่ 4,000 ตารางเมตร คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปีหน้า เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคตด้วย

          อนึ่ง งบการเงินบริษัท พบว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/2565 เท่ากับ 162.3 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 11 ไตรมาส นับจากไตรมาส 3/2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนมีการแพร่ระบาดของ โควิด-19 โดยกำไรสุทธิไตรมาส 2/2565 เติบโต 60.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีปัจจัย บวกมาจากการเติบโตของยอดขายสาขา ยอดขายโครงการ ยอดขายแฟรนไชส์ต่างประเทศ และการทำสถิติสูงสุดใหม่ อีกครั้งของรายได้จากการให้เช่าและบริการ รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นมาก ในขณะที่สภาพคล่องแข็งแกร่ง

          กำไรแกร่งเป้า 22.4 บ.

          ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ILM ให้ราคาเป้าหมาย 22.40 บาท เพราะคาดว่า ทิศทางกำไรในไตรมาส 3/2565 เติบโตอย่างโดดเด่นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีฐานที่ต่ำ เพราะไม่มี Lockdown และการฟื้นตัวของอัตราเช่าพื้นที่ดีขึ้น

          โดยอิงจากข้องมูลประชุมล่าสุดพบว่า ตัวเลขขยับขึ้นเป็น 82% จาก 80% ในไตรมาส 2/2565 เพราะได้กระแสตอบรับดีจากการทำแคมเปญทาง การตลาดต่างๆ ซึ่งช่วยผลักดันให้ยอดขาย ของสาขาเดิม (SSSG) ในช่วงกรกฎาคม 2565 เติบโตสูงถึง 40% ประกอบกับมาร์จิ้นที่คาดว่าจะได้ผลบวกจากการปรับขึ้นราคาขายสะท้อนต้นทุนเต็มไตรมาส

ที่มา: