CPANEL รับอสังหาคืนชีพอวดแบ็กล็อกแน่น1.2พันล.

03 มี.ค. 2565 603 0

           CPANEL ส่งสัญญาณธุรกิจอสังหาทั้งแนวราบ และแนวสูงฟื้นตัว หนุนงานก่อสร้างคึกคัก ฟากบอส “ชาคริต ทีปกรสุขเกษม” ตั้งเป้ายอดขายโต 25% พร้อมรักษามาร์จิ้นที่ 36% เตรียมรับงานเพียบ โชว์แบ็กล็อกเต็มหน้าตัก 1.2 พันล้านบาท เร่งปั๊มกำลังผลิตเกิน 70%

          นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast) ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ปี 2565 บริษัทตั้งเป้ายอดขายโตเติบโต 25% จากปี 2564 ที่ 312.44 ล้านบาท และจะรักษาฐานอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ให้อยู่ที่ระดับ 36% สำหรับยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นจะมาจากการฟื้นตัวของอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัด ปัจจุบันโครงการแนวราบ เป็นเรียลดีมานด์มีแนวโน้มเติบโตต่อจากปีก่อน  งานก่อสร้างคึกคัก

          ขณะที่โครงการแนวสูง หรือคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์เริ่มฟื้นตัวชัด ส่งผลให้งานก่อสร้างคึกคักมากขึ้น ขณะเดียวกันโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ก่อนหน้านี้ค่อนข้างชะลอตัว แต่ปัจจุบันเริ่มเห็นการก่อสร้างมากขึ้น ทำให้บริษัทคาดภาพรวมการก่อสร้างยังมีแนวโน้มที่ดี

          ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ หรือ Backlog อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ยาวถึง 3 ปี ทั้งนี้บริษัทใช้กำลังผลิตไม่เต็ม Capacity หรือเกือบ 70% โดยในปี 2565 ตั้งเป้าจะใช้กำลังผลิตให้สูงกว่า 70% และบริษัทจะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิต เพื่อลดระยะเวลาในการผลิต และสร้างมาตรการฐานที่ดีให้กับสินค้า

          ด้านการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 มูลค่าการลงทุนรวมไม่เกิน 500 ล้านบาท จะก่อสร้างในพื้นที่โรงงานเดิมด้วยระบบการผลิต Fully Automated ที่มีกำลังการผลิต 7.2 แสนตารางเมตรต่อปี หรือเท่ากับกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1 เท่าตัว คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างตามแผนที่วางไว้ในช่วงไตรมาส 2/2565 ถึงไตรมาส 4/2566 โดยคาดการณ์เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาส 1/2567 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.4 ล้านตารางเมตรต่อปี รองรับแนวโน้มความต้องการของผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต

          รับออเดอร์ปีหน้า

          “ตอนนี้เราคุยกับลูกค้าเพื่อรับออเดอร์ใหม่ในปีหน้าแล้ว รวมถึงออเดอร์ที่ใช้กำลังผลิตจากโรงงานใหม่ด้วย เบื้องต้นคาดเฟสแรกหากโรงงานแห่งที่ 2 สร้างเสร็จ คาดจะทำให้เรารับออเดอร์ได้ประมาณ 40% ของ Backlog ที่มีอยู่ในตอนนี้ ส่วนทิศทางธุรกิจปีนี้คาดจะเป็นปีที่ดี เพราะการก่อสร้างเริ่มฟื้นตัวชัด” นายชาคริต กล่าว

          สำหรับในปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 312.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี รายได้รวม 221.15 ล้านบาท จำนวน 91.29 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 41.27% และมีกำไรสุทธิ 31.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.12 ล้านบาท จำนวน 18.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 142.38%

          ปันผล 0.085 บ.

          ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.085 บาทต่อหุ้น รวมเป็นปันผลจ่ายทั้งสิ้น 12.75 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2564 อยู่ที่ 42.15% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย สอดคล้องกับนโยบายการจ่ายปันผลที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 40% โดยเสนอจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 15 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล จำนวนไม่เกิน 10 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และเสนอจ่ายปันผลเป็นเงินสดเพิ่มเติมให้อีกในอัตรา 0.0183333 บาทต่อหุ้น กำหนดวัน Record Date ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับหุ้นปันผลและเงินปันผลเป็นวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565

ที่มา: