CPANEL งานจ่อ291ล.เดินหน้าดันยอดผลิต

14 มิ.ย. 2565 391 0

          CPANEL ชี้ทิศทางไตรมาส 2/65 โตต่อเนื่อง จ่อเซ็นสัญญางานใหม่มูลค่า 291.8 ล้านบาท โชว์งานในมือ 1,174.40 ล้านบาท เตรียมรับรู้รายได้ปีนี้ 663.03 ล้านบาท ปรับปรุงชิ้นส่วนเครื่องจักร ดันยอดการผลิตพุ่ง

          นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast) ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า คาดว่าทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/2565 มี แนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 1/2565 ที่บริษัทมีรายได้รวม 90.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 86.37 ล้านบาท และสามารถทำกำไรนิวไฮเป็นไตรมาสที่ 3 หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai โดยมีกำไรสุทธิ 11.61 ล้านบาท

          ทั้งนี้บริษัทมองว่าอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และวัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยการเปิดโครงการใหม่ในปี 2565 มีจำนวนเพิ่มขึ้น 6.0-6.6 หมื่นหน่วย จากปี 2564 ที่ 5.5-5.8 หมื่นหน่วย และอยู่ระหว่างการพิจารณาปลดล็อก LTV และลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมการซื้อที่อยู่อาศัย โดยอนุญาตให้ต่างชาติซื้อบ้านได้ซึ่งก็คาดว่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมอสังหาริมทรัพย์

          จ่อเซ็นงานใหม่

          ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างรอพิจารณาเซ็นสัญญากับลูกค้าโครงการแนวราบ-แนวสูงเพิ่ม 5 ราย มูลค่ารวมกว่า 291.8 ล้านบาท และบริษัทยังมีลูกค้าอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายรายที่มีความสนใจใช้ Precast Concrete อีกทั้งบริษัทมีงานที่จะส่งมอบให้ลูกค้า 16 ราย

          ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1,174.40 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2565 ที่ 663.03 ล้านบาท และในปี 2566 จะรับรู้รายได้ 511.39 ล้านบาท ซึ่งช่วงเวลาที่รับรู้รายได้อาจจะมีความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากบริษัทจะรับรู้รายได้จากการขายสินค้าเมื่อส่งมอบสินค้าไปยังโครงการของลูกค้าและเซ็นรับโดยเจ้าหน้าที่ของลูกค้า แต่ในทางปฏิบัติแผนงานลูกค้าอาจจะเลื่อนกำหนดเวลารับสินค้าขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ และมีงานโครงการแนวราบขนาดใหญ่ที่แบ่งหลายเฟสในสัญญา ดังนั้นการจัดส่งสินค้าจึงอยู่ในระยะ 2-3 ปี

          ยอดผลิตสูงขึ้น

          “ในช่วงไตรมาส 2/2565 บริษัทได้ปรับปรุงชิ้นส่วนเครื่องจักร ส่งผลให้มียอดการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น และมีเครื่องจักรใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มศักยภาพของโรงงาน คาดว่าจะเดินหน้าผลิตได้ในช่วงไตรมาส 3/2565 ตอกย้ำเป้าหมายเติบโต 25-30% หรือประมาณ 400 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 10%” นายชาคริต กล่าว

ที่มา: