CI เล็งเปิด 4 โครงการเฉียด1หมื่นล้าน ปีนี้ทุ่มงบซื้อที่ดิน 1 พันล้าน รองรับการพัฒนาโครงการใหม่

30 มี.ค. 2566 187 0

         “ชาญอิสสระฯ” เตรียมเปิดโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม 3-4 โครงการ มูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาท พร้อมทุ่มงบลงทุนซื้อที่ดินในปีนี้กว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต หลังมองภาพรวมตลาดอสังหาฯ-โรงแรมปีนี้สดใส หลังเศรษฐกิจดีขึ้นรับแรงหนุนภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว

          นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI เปิดเผยว่า การเติบโตของบริษัทในปี 2566 จะมาจาก 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจโรงแรมเชื่อว่าจะฟื้นตัวกลับมาแน่นอน เนื่องจากจากสถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น หลังมีความเดือดร้อนมา 3 ปี จากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องมีการล็อกดาวน์ปิดประเทศ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดดังกล่าว

          ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 บริษัทมีแผนขยายโครงการแนวราบมากขึ้น รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise รวมประมาณ 3-4 โครงการ มูลค่าโครงการเกือบ 10,000 ล้านบาท โดยในปี 2566 บริษัทวางงบลงทุนในส่วนของการซื้อที่ดินไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท

          ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 จะฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากภาพรวมเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น โดยภาคการท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่งขณะนี้ในภาคการท่องเที่ยวก็กลับมาเป็นปกติ และดีกว่าเดิมแล้ว ซึ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ของประเทศไทยมีสัดส่วนของภาคการท่องเที่ยวขับเคลื่อน 12% ถือว่าเป็นส่วนสำคัญมาก นอกจากนี้ ยังมีการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งการลงทุนในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งถือเป็นโครงการที่สามารถดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศไทยได้มากขึ้น

          ขณะที่ปัจจุบันประเทศไทยได้พัฒนาเป็นจุดรวมของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เป็นจุดรวมจุดใหม่ของเอเชีย ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นฐานการผลิตแห่งใหม่ รวมทั้งการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และภาครัฐบาลได้มีการดูแลและควบคุมอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่ดี รวมถึงความมีเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีมาก ถือเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการลงทุนภายในประเทศด้วย นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจสุขภาพ ทั้ง Wellness และโรงพยาบาลยังสามารถดึงดูดเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวในกลุ่มดังกล่าวเข้ามาประเทศไทยได้ดีเช่นกัน

          สำหรับธุรกิจโรงแรมในปี 2566 ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ ๆ เช่น ในจังหวัดภูเก็ต และกรุงเทพฯ เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย รวมถึงนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง (Middle East) ที่เริ่มกลับมามากขึ้นตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และยังคงเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนักท่องเที่ยวประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังคาดว่าในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า นักท่องเที่ยวชาวจีนจะกลับมาเป็นปกติ หลังจากที่ประเทศจีนได้ประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา

          นอกจากนี้ นายสงกรานต์ กล่าวอีกว่า อยากได้รัฐบาลใหม่ที่มีความซื่อสัตย์ และคิดถึงส่วนรวมของประเทศเป็นหลัก คิดถึงประชาชนส่วนใหญ่เป็นหลัก จะดำเนินการให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างไร อย่าคิดถึงแต่กระแส ในส่วนของมาตรการ มองว่ารัฐบาลชุดไหน ๆ ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง

ที่มา: