APโชว์ครึ่งแรกกำไร3,303ล.โต31% ครึ่งหลังจ่อเปิด 40 โครงการ มูลค่า 5 หมื่นล้าน 

10 ส.ค. 2565 269 0

 

          “เอพี” อวดผลงานไตรมาส 2/65 กำไรสุทธิ 1,573.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.2% ดันครึ่งปีแรกเบ่งกำไรสุทธิ 3,303.84 ล้านบาท โต 31% มั่นใจยอดโอนปีนี้ตามนัด 47,000 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อกแน่น 33,637 ล้านบาท จ่อโอน 2 คอนโดมิเนียมใหม่ในไตรมาส 3/65 เดินหน้าเปิดใหม่ 40 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 50,870 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง

          นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,573.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,115 ล้านบาท และมีรายได้รวม 9,862 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 8,035 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขาย 9,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และรายได้ค่าบริการและค่าบริหารจัดการ 242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

          ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,303.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,517.75 ล้านบาท และมีรายได้รวม 20,738.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 17,289.28 ล้านบาท

          โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 บริษัทมียอดโอนกรรมสิทธิ์ (รวมโครงการร่วมทุน) อยู่ที่ 25,276 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ 20,506 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (D/E) อยู่ในระดับ 0.51 เท่า ซึ่งมีวงเงินสด (Availably Credit Line) พร้อมใช้ในมือกว่า 13,607 ล้านบาท

          ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 33,637 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 3/2565 บริษัทเตรียมรับรู้รายได้เพิ่มจากการโอนกรรมสิทธิ์ 2 คอนโดมิเนียมใหม่ที่ก่อสร้างเสร็จ ได้แก่ โครงการ RHYTHM เอกมัย เอสเตท และโครงการ LIFE สาทร เซียร์รา ดังนั้น บริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 47,000 ล้านบาท

          ส่วนยอดขาย (Presale) ณ สิ้นเดือน กรกฎาคม 2565 บริษัทมียอดขายแล้ว 29,960 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 50,000 ล้านบาท โดยยอดขายที่ทำได้นั้นเติบโตกว่า 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสินค้ากลุ่มบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมที่ขับเคลื่อนการเติบโต ขณะที่ยอดขายกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมก็ปรับตัวดีขึ้น ถือเป็นภาพสะท้อนถึงดีมานด์ตลาดคอนโดที่เริ่มฟื้นคืนกลับ อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณที่ดีให้กับตลาดคอนโดในภาพรวมอีกด้วย

          นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 บริษัทจะแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 40 โครงการ ประกอบด้วย ทาวน์โฮม 16 โครงการ มูลค่าโครงการ 16,440 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว 18 โครงการ มูลค่าโครงการ 24,030 ล้านบาท, คอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่าโครงการ 10,400 ล้านบาท และยังมีโครงการภายใต้แบรนด์ “อภิทาวน์” ในต่างจังหวัด อีกจำนวน 3 โครงการ  ได้แก่ 1.โครงการ อภิทาวน์ อุดรธานี, 2.โครงการ อภิทาวน์ ฉะเชิงเทรา และ 3.โครงการ อภิทาวน์ อุบลราชธานี

 

 

ที่มา: