ธุรกิจที่อยู่อาศัยใต้ปีก เซ็นทรัลกรุ๊ป สุดยอดกลยุทธ์ ติดศูนย์การค้า-มิกซ์ยูสชั้นนำ

18 ส.ค. 2565 327 0

 

          ต้นไตรมาส 3/65 ได้เวลาคิกออฟ แผนลงทุนขนานใหญ่ของเซ็นทรัลกรุ๊ป เป็นการเปิดตัวในโอกาสครบรอบ ก่อตั้ง 40 ปีของ “CPN-เซ็นทรัลพัฒนา” คีย์เวิร์ดอยู่ที่แผนธุรกิจ 5 ปี (2565-2569) ลงทุนเพิ่ม 50 โครงการ รักษาการเติบโตเฉลี่ยปีละ 20%

          ตัวชี้วัด ณ ปี 2569 โครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียมแปะยี่ห้อเซ็นทรัลกรุ๊ป จะมีไม่ต่ำกว่า 70 โครงการ แบ่งเป็น บ้านแนวราบสัดส่วน 30% คอนโดฯ 70% ทำเลการแข่งขันกระจายอยู่ใน 27 จังหวัด และมีลูกบ้านมากกว่า 20,000 ครัวเรือน

          3 โฟกัสกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

          ผู้บริหารสูงสุด CPN  “วัลยา จิราธิวัฒน์” กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ปี 2565 CPN เน้นย้ำการเป็น retail-led mixed-use developer ด้วยแผนลงทุนต่อเนื่อง 120,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี

          ไฮไลต์หนึ่งในธุรกิจหลัก “residential- โครงการที่อยู่อาศัย” เพราะเป็นแม็กเนต ในโครงการมิกซ์ยูสและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ CPN มีการเติบโตตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้ รวมเกิน 10,000 ล้านบาท

          ความสำเร็จของ CPN Residential ถูกบันทึกไว้ในผลการสำรวจข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดที่ CPN เข้าไปลงทุน ทั้งตัวเลข “การเปิดตัวใหม่-ยอดขาย-ยอดโอน” ซึ่งเข้ามาช่วยพยุงตัวเลขเชิงสถิติในทุกจังหวัดที่มีการเปิดโครงการใหม่

          จุดโฟกัสที่คมชัดของ CPN คือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความแตกต่างจากคู่แข่งขัน เฟ้นกลยุทธ์ตอบโจทย์ affluent urbanists ทั้งกลุ่มลูกค้า “ซื้ออยู่เอง real demand” เพราะมีความมั่นใจในแบรนด์ คุณภาพ และโลเกชั่นของบ้านเซ็นทรัล, กลุ่มลูกค้า “ตากอากาศ” มองหาบ้านอีกหลังเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ shop-cation และ weekend house

          รวมทั้งกลุ่มลูกค้า “ซื่อเพื่อการลงทุน” มีพฤติกรรมมองหา asset ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ สามารถสร้างผลตอบแทน (yield) เฉลี่ย 4-5% ต่อปี

          Strong Synergy คือจุดขาย

          ถัดมา ผู้บริหารหลั residentail “ร.อ.กรี เดชชัย” President, Residential Business บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ระบุเพิ่มเติมว่า โครงการที่อยู่อาศัยของ CPN มีจุดแข็งที่โดดเด่นในการเชื่อมต่อ retail & residential integration ด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญทั้ง “Best in Town-Beyond Quality-Strong Synergy”

          รายละเอียดเริ่มจาก 1.“Best in Town” แบรนด์แข็งแกร่ง เจาะทำเล new CBD และย่านดาวน์ทาวน์ ที่อยู่อาศัยติดกับศูนย์การค้าหรืออยู่ในโครงการมิกซ์ยูสของ CPN ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันทั้งการช็อปปิ้งในศูนย์การค้า ทานอาหารในโรงแรม และทำงานในอาคารออฟฟิศชั้นนำ

          ทั้งหมดนี้พิสูจน์มาแล้วจากผลตอบรับ 4 ปีโครงการที่อยู่อาศัยของ CPN เป็น valuable asset ที่มีมูลค่าน่าลงทุน

          2.“Beyond Quality” คุณภาพ-ไลฟ์สไตล์-ความปลอดภัยที่เหนือความคาดหมายด้วย customer-centric design thinking คำนึงถึงคุณภาพชีวิตที่ให้มากกว่าในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น 2.1 space การให้ความเป็นส่วนตัว-พื้นที่สีเขียวที่ มากกว่าสูงสุดถึง 35% ของพื้นที่ขาย ซึ่งมากกว่าโครงการทั่วไปในตลาด

          2.2 smart security & well-being ความปลอดภัยที่มาพร้อมสมาร์ทเทคโนโลยี อาทิ ระบบดับเบิลเกตทางเข้า-ออกโครงการ, VMS (visitor management system) ในทุกโครงการ เป็นต้น

          2.3 services & facilities นิติบุคคลบริหารงานโดย CPN สร้างความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง เช่น รูฟท็อปพูลในคอนโดฯ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 25 เมตร (semiolympic), ฟิตเนสอุปกรณ์มาตรฐานระดับเดียวกันกับในโรงแรม, บริการชัตเติลบัสไปเดินเซ็นทรัล, ที่จอดรถ เหนือมาตรฐานทั่วไป

          2.4 sustainability ผลักดัน เป้าหมายสู่ Net Zero ในปี 2050 นำร่องนำวัสดุและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการออกแบบ อาทิ คัดเลือกพรรณไม้ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 และเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น, ติดตั้งโซลาร์เซลล์เต็มรูปแบบในพื้นที่ส่วนกลาง, บริการ EV charger station เป็นต้น

          3.“Strong Synergy” สิทธิประโยชน์จากกลุ่มเซ็นทรัล ด้วยบริการที่มีความเชื่อมโยงต่อเนื่องตั้งแต่วันแรกของการเข้ามาเป็นลูกบ้านเซ็นทรัล อาทิ เตรียมแผนบริการครั้งแรกด้วย CPN Concierge บริการผู้ช่วยส่วนตัว, แม่บ้าน, บริการอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกับธุรกิจในโครงการมิกซ์ยูส, รับสิทธิอัพเกรดเป็น The 1 Exclusive หลังจากโอนบ้าน, ส่วนลดพิเศษจากเซ็นทรัล โรบินสัน ท็อปส์ออนไลน์ เพาเวอร์บาย และบริการเพื่อคนรักบ้านจาก Home Service และ BnB Home เป็นต้น

          เจาะราคาเริ่มต้น 2-25 ล้าน

          ปัจจุบัน CPN Residential ประกอบร่างขึ้นมาจากแบรนด์และฟอร์แมตที่หลากหลายทั้งแนวสูงและแนวราบ ได้แก่ “ESCENT” แบรนด์คอนโดฯ และทาวน์โฮมติดศูนย์การค้า ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต, “PHYLL” แบรนด์คอนโดฯ เริ่มต้น 3 ล้านบาท เจาะลูกค้าคนเมืองที่ต้องการความสะดวกในการเดินทาง

          “NIYHAM” แบรนด์บ้านเริ่มต้น 25 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้า wealth ที่เป็นครอบครัวใหญ่, “NINYA” แบรนด์บ้านเริ่มต้น 10 ล้านบาท เจาะลูกค้า Young Gen ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และ “NIRATI” แบรนด์บ้านเริ่มต้น 5 ล้านบาท เจาะลูกค้าครอบครัวเริ่มต้น

          สำหรับการลงทุนใหม่ในปี 2565 วางเป้าเปิดตัว 6 โครงการใหม่ แบ่งเป็น 4 คอนโดฯแบรนด์ ESCENT “สุราษฎร์ธานี” ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล สุราษฎร์ฯ และอีก 3 โครงการติดกับโรบินสัน “สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ตรัง” ที่เหลือมี 2 โครงการบ้านแนวราบ ได้แก่ “นินญา ราชพฤกษ์” กับ “นิรติ เชียงใหม่”

          ทั้งนี้ CPN ลงทุนภายใต้เจตจำนงของ แบรนด์ Imagining better futures for all สร้างและพัฒนาพื้นที่ที่มีคุณภาพเพื่อดูแลคน ชุมชน  สิ่งแวดล้อม ให้เติบโตควบคู่ไปกับการเดินหน้าทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทย

 

ที่มา: