ชงลดภาษีจูงใจทำงานอีอีซี1ปี

05 ม.ค. 2564 431 0

           นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยว่า ในปี 64 สำนักงานฯ จะเร่งดึงดูดนักลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมเป้าหมายเข้ามาลงทุนในประเทศไทยโดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยจะเสนอให้รัฐบาลต่ออายุการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญนักวิจัยใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่เข้ามาทำงานในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษจากอัตราก้าวหน้าที่สูงสุด 35% ให้เหลือในอัตราไม่เกิน 17% ออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปีเพื่อให้ผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศที่จะเข้ามาทำงานในไทยตัดสินใจเข้ามาลงทุนง่ายขึ้น

          “มาตรการนี้จะเป็นมาตรการสำคัญช่วยสนับสนุนการเติบโตของการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีในพื้นที่อีอีซี ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องรองรับการเติบโตในอนาคตโดยเฉพาะเทคโนโลยี 5จี ที่ในพื้นที่อีอีซี มีการลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยี 5จี ก็เริ่มเพิ่มการลงทุนต่อเนื่องได้แก่ธุรกิจการแพทย์ โลจิสติกส์ รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวกับออโตเมชั่นและที่เกี่ยวกับอากาศยาน ซึ่งการลงทุนนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้นจนถึงครึ่งปี 64”

          ส่วนความคืบหน้าการทำโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซีนั้นได้กำหนดแผนทำงานเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ในช่วงไตรมาสที่ 1-2 ของปีนี้จะเริ่มส่งมอบพื้นที่ให้กับเอกชนในช่วงลาดกระบัง-สนามบินอู่ตะเภาเพื่อเริ่มก่อสร้างทางรถไฟและสถานี ส่วนในช่วงพื้นที่ กทม.แม้จะยังส่งมอบที่ดินและรื้อย้ายสาธารณูปโภคไม่ได้ทั้งหมดแต่ในปีนี้จะเห็นการทำงานของรถไฟแอร์พอร์ตเรลลิงก์ที่รวดเร็วมากขึ้น เนื่องจากเอกชนที่ชนะการประมูลในโครงการนี้จะเริ่มเข้ามาบริหารงานและมีการเพิ่มขบวนรถเข้ามาให้บริการมากขึ้น

          อย่างไรก็ตามในปีนี้จะเป็นการลงทุนเพื่อเตรียมความพร้อมให้สถานีรถไฟมักกะสันเป็นสถานีหลักของรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เพราะถือว่ามีความพร้อมในการเป็นสถานีหลักของรถไฟความเร็วสูงมากที่สุด โดยในส่วนของปัญหาเรื่องทางเข้าสถานีที่คนเดินทางเข้าสู่สถานี ได้ยากกำลังอยู่ระหว่างการออกแบบสร้างทางเดินเข้าสู่สถานีโดยการขุดทางลอดใต้ดินให้มีทางเข้าออกได้ถึง 6 ทางเพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้า-ออกสถานีของประชาชน รัฐให้ความสำคัญที่จะต้องติดตามต่อจากนี้ก็คือในประเด็นที่จะให้รถไฟความเร็วสูงและโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกที่จะต้องแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน

ที่มา: