แสนสิริ เร่งเกมรุกธุรกิจโรงแรม

15 ธ.ค. 2565 311 0



          ชู ‘เดอะสแตนดาร์ด’ เขย่าอสังหาฯริมหาดหัวหิน!
          ในภาวะเศรษฐกิจเพิ่งฟื้นไข้จากโควิด-19 ต้นทุนพลังงานทรงตัวสูง ภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก ตลอดจนการปรับสมดุลระเบียบโลกใหม่ ที่มีจุดเสี่ยงหลายจุดทั่วโลก ขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นแรงหนุนสำคัญให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่อง เป็นโอกาสของธุรกิจโรงแรมอีกครั้ง

          นักลงทุนอย่าง  “เศรษฐา ทวีสิน” บิ๊กบอส แห่ง “แสนสิริ” เดินหน้ารุกขยายธุรกิจโรงแรม รองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่กลับมาเยือนไทยในประเทศ พร้อมดึงจุดแข็งแบรนด์ เดอะ สแตนดาร์ด (The Standard) มาสร้างความแข็งแกร่งให้คอนโดมิเนียมของแสนสิริ

          “ผมได้เตรียมที่ดินขนาด 10 ไร่ อยู่หาดเดียวกันกับโรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน สามารถเดินถึงกันได้ จะทำ The Standard Residences ซึ่งเป็นฟรีโฮลด์ คาดเริ่มปีหน้า ที่ดินตรงนี้เก็บมา 4 ปีแล้วรับรองฮือฮาแน่นอน” เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าว

          โปรเจกต์นี้ ถือเป็น เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ (The Standard Residences) แห่งแรกในประเทศไทยและแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือ เดอะ สแตนดาร์ด!! จากก่อนหน้านี้ เดอะ สแตนดาร์ด  ไมอามี่ ได้ทำสแตนอะโลน เรสซิเดนซ์ เปิดขายเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาขายไปแล้ว 70% คิดเป็นจำนวน 228 ยูนิต  เป็นอพาร์ตเม้นท์ 12 ชั้น มีฟาซิลิตี้ที่หลากหลายและแตกต่าง มากกว่าคอนโดมิเนียมทั่วไป อาทิ คาเฟ่ออนกราวน์ รูฟท๊อปบาร์ ซึ่งมีเชนมาบริหาร  มี “Pickle ball” ลักษณะคล้ายกับการเล่นแบดมินตัน-ปิงปอง และเทนนิส กำลังได้รับความนิยมและเติบโตเร็วที่สุดในอเมริกา มียิมเหมือนในโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด โปรแกรมมิ่งที่จัดให้ลูกบ้าน เช่น มีเทรนเนอร์หรืออีเวนต์เวียนมาให้บริการแล้วแต่นิติบุคคลจะนำเสนอให้กับลูกบ้าน

          สำหรับรูปแบบของ “เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์” มี 3 โมเดล โมเดลแรก ไม่จำเป็นต้องอยู่ติดกับโรงแรมเป็น สแตนอะโลน เรสซิเดนซ์ และหาโอเปอเรเตอร์มาบริหารคาเฟ่หรือรูฟท๊อป โมเดลที่สอง  เรสซิเดนซ์อยู่กับโรงแรมในพื้นที่ติดกันและเอื้อซึ่งกันและกัน ฟาซิลิตี้ไม่ต้องมีทุกอย่างสามารถใช้บริการโรงแรมได้ เป็นสเกลที่พึ่งพากัน! โมเดลที่สาม  อยู่ด้วยกันและสต็อก บางกลุ่มของเรสซิเดนซ์/โรงแรม เหมือนเป็น rental pool ซึ่งยังไม่มีโมเดลนี้

          ตามแผนจะมีการเปิดตัว เดอะ สแตนดาร์ด ที่ลิสบอน โปรตุเกส มีทั้งโรงแรมและเรสซิเดนซ์ โดยโรงแรมเปิดปี 2567 ปีถัดมาเป็น เรสซิเดนซ์ ซึ่งในปี 2567 “ไมอามี่ เรสซิเดนซ์” จะสร้างเสร็จ จากนั้นมีแผนที่ทูลัม เม็กซิโก, ออสติน เท็กซัส และดูไบ เป็นการสร้างเรสซิเดนซ์ พร้อมกับโรงแรม อย่างไรก็ตาม “แสนสิริ” เน้นตลาด พรีเมี่ยมในพื้นที่สำคัญในเมืองท่องเที่ยวของไทย

          อย่าง หัวหิน พัทยา ภูเก็ต สมุย โดยเปิดกว้างให้เจ้าของที่ดิน หรือดีเวลลอปเปอร์ที่ต้องการแบรนด์ “เดอะ สแตนดาร์ด” ที่มีความแข็งแกร่งเข้ามาดึงดูดผู้ซื้อ ทั้งคนไทยและ ต่างชาติที่พร้อมจ่าย!!

          สุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด หรือ TerraBKK กูรูในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย มองว่า หัวหิน เป็นเมืองพักตากอากาศ ที่กลุ่มมหาเศรษฐีเมืองไทยนิยม  และเป็นทำเลแรกๆ ที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวหลังโควิด!

          “หัวหินเป็นทำเลที่มีโรงแรม 5 ดาวระดับอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์มากที่สุดในประเทศไทย เพราะใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชม. มีชายหาดติดโรงแรม หาดทรายขาวสะอาด ต่างจากฝั่งพัทยา ชลบุรี”

          ในส่วนคอนโดมิเนียม Branded Residence ล่าสุดคือ “Intercon residence” ห้องพักขนาดใหญ่ 90 ตร.ม. ขึ้นไป ขายหมดตั้งแต่ปีแรกของการเปิดขาย ปัจจุบันเหลือเพียงห้องพักขนาดเล็กที่ไม่ใช่ Sea view ราคาขายเฉลี่ย 2.5 แสนบาทต่อตร.ม. ตอกย้ำว่า “หัวหิน” เป็น Supply ที่รองรับตลาด Super Luxury แบบ Rare Item ที่มาพร้อมบริการแบบโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ตอบโจทย์เศรษฐีเมืองไทย

          อะไรที่เป็น Rare Item นั่นคือ คำตอบของคนรุ่นใหม่ และมหาเศรษฐีเมืองไทย!

ที่มา: