แลนดี้ โฮม สุดอั้นต้นทุนพุ่งจ่อปรับราคา 5%
“แลนดี้ โฮม” ประกาศขยับราคา 5% ไตรมาส 2 หลังแบกต้นทุนเหล็ก วัสดุก่อสร้าง อ่วม พร้อมปรับแผนลุย “ออมนิชาแนล-พูลวิลล่า” ขยายไลน์ “บ้านเดี่ยวลักชัวรี” หลังละ 55-60 ล้านย่านอารีย์ ชิมลาง ก่อนพัฒนาบ้านพัก ตากอากาศปราณบุรี-เขาใหญ่ ปีหน้า
นางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการ ฝ่ายขาย บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากแนวโน้มต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยลบต่างๆ โดยเฉพาะสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน เวลานี้ ส่งผลต่อค่าพลังงาน ทำให้ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปี 2564 ที่ราคาเหล็ก และวัสดุขยับ ขึ้นมา 3-5% บริษัทจำเป็นต้องปรับราคาขึ้น 5% ในไตรมาส 2
พร้อมกันนี้ บริษัทวางแผน ดำเนินงานมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาออมนิชาแนล (Omni Channel) ผสานช่องทางออนไลน์-ออฟไลน์ให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าและสร้างประสบการณ์ใหม่ตรงใจผู้บริโภคยุคนิวนอร์มอล คาดว่าสัดส่วนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการผ่านทางออนไลน์มากขึ้น 20% จากรายได้รวม
“ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้บริการลูกค้าได้ทุกวิกฤติจากนี้ ซึ่งวิกฤติโควิด 2 ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปคือมีความคุ้นเคยกับช่องทางการขายบนออนไลน์ ผ่านการสื่อสารทาง Google Meet,ZOOM มีผลกระตุ้นการตัดสินใจสร้างบ้านได้ง่ายขึ้นคาดว่าครึ่งปีแรกจะ ปิดยอดขาย 1,200 ล้านบาท”
นอกจากนี้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Technology ) สำหรับการอยู่อาศัย อาทิ ลดการใช้พลังงานและทดแทนด้วยพลังงานสะอาด โดยมีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในการ นำเสนอบริการ เช่น EV Charger, Solar Panel ระบบป้องกัน รวมถึงระบายความร้อน จากภายนอกเพื่อการใช้พลังงานที่ลดลงเพื่อการอยู่อาศัยที่มีความสุขอย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกัน ได้พัฒนาแบบบ้าน Pool Villa Series ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ช่วงโควิด และกลุ่มลูกค้าที่มีลูกเล็กให้สามารถเล่นน้ำในสระว่ายน้ำส่วนตัวได้ตอบโจทย์พฤติกรรมและความต้องการของคนที่นิยมบ้านพักที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ตั้งแต่ระดับราคา 2-6 ล้านบาทขึ้นไปสามารถมีสระว่ายน้ำในบ้านได้โดยเพิ่มค่าใช้จ่าย ขั้นต่ำ 500,000 บาท จากเดิมที่จะมีเฉพาะบ้านระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป เป็นจุดขายที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดทำให้ขายดีขึ้น คาดว่าสิ้นปี 2565 มียอดขาย 2,750 ล้านบาท
นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ กล่าวเสริมว่า ปีนี้บริษัทได้ขยายไลน์ธุรกิจอสังหาฯ นำร่องเปิดตัวโครงการ “ฮาวี” บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี 3 ชั้นครึ่ง ขนาด 500 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต มูลค่า 55-60 ล้านบาทต่อยูนิต มีลิฟท์และสระว่ายน้ำ ในย่านอารีย์สัมพันธ์ 1 เป็นโครงการแรกเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านแต่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง
ในปี 2566 มีแผนพัฒนาโครงการบ้านพักตากอากาศในปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ราคาหลังละ 10-20 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาและซื้อที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการขนาด 10-20 ไร่ เป็นการเพิ่มพอร์ตธุรกิจใหม่เสริมความแข็งแกร่งให้บริษัทมากขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ