แบงก์จัดมาตรการช่วยลูกค้าพักหนี้-ลดดอกเบี้ย-เติมสภาพคล่อง
นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรอง ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศขยายระยะเวลามาตรการให้ความช่วยเหลือ ลูกค้ารายย่อย เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งขยายขอบเขตการแพร่ระบาดออกไปเป็นวงกว้างหลายพื้นที่ ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ธนาคารจึงได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง ด้วยการขยายระยะเวลาขอรับความช่วยเหลือต่อไปอีก 6 เดือน จนถึง 30 มิถุนายน 2564 จากเดิม สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2563
ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย จะครอบคลุมลูกค้าบัตรเครดิต ลูกค้าสินเชื่อบุคคลภายใต้การกำกับ ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน เพื่อช่วยลูกค้าลดความวิตกและกังวลใจจากผลกระทบดังกล่าว โดยมีรายละเอียดของมาตรการเพื่อให้ลูกค้าแจ้งขอรับความช่วยเหลือได้ดังนี้..สินเชื่อบัตรเครดิต เปลี่ยนประเภทเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา (Term Loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 12% ต่อปี ปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำให้กับลูกค้าทุกรายโดยอัตโนมัติตั้งแต่ เมษายน 2563 จนถึงปี 2565 และปรับลดเพดานดอกเบี้ยตั้งแต่สิงหาคม 2563 รวมถึงการพิจารณาขยายวงเงินให้แก่ลูกค้าที่มีความจำเป็นเป็นการชั่วคราว
สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับประเภทสินเชื่อที่มีลักษณะหมุนเวียนลดอัตราผ่อนขั้นต่ำ ตามความสามารถในการชำระหนี้ เปลี่ยนเป็น สินเชื่อที่มีระยะเวลา 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี ประเภทสินเชื่อที่ผ่อนชำระเป็นงวด ลดค่างวดอย่างน้อย 30% โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน
เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือเลื่อนชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าแต่ละรายตามความเหมาะสม หรือลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้ รวมถึง ลูกค้าสามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการรวมหนี้ โดยนำสินเชื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ซึ่งอยู่กับธนาคารกรุงเทพ มารวมเป็นสินเชื่อเดียวกันเพื่อลดภาระทางการเงิน
ธนาคารยังคงช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในเชิงรุกอย่างทันเหตุการณ์ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและเสริมสภาพคล่อง เช่น การให้ด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan ธปท.) อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี ระยะเวลา 2 ปี โดยรัฐบาลจ่ายดอกเบี้ยแทนลูกค้า 6 เดือนแรก
นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ เอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ได้เข้ามาซ้ำเติมผลกระทบจากสถานการณ์ในรอบแรกที่ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่สามารถพลิกฟื้นธุรกิจให้กลับสู่ภาวะปกติได้ และสร้างความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ธนาคารจึงออกมาตรการช่วยเหลือระยะที่ 3 ซึ่งเป็นมาตรการ ต่อเนื่องจากการให้ความช่วยเหลือก่อนหน้านี้
ประกอบด้วย มาตรการที่ 1) ขยายเวลาพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนานสูงสุด 6 เดือน โดยจะมีผลต่อเนื่องเมื่อครบอายุสัญญาตามมาตรการช่วยเหลือระยะที่ 2 มาตรการที่ 2) ปรับลดอัตราผ่อนชำระต่องวดและขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ และมาตรการที่ 3) เสริมสภาพคล่องทางการเงินสำหรับธุรกิจโรงแรมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ วงเงินสูงสุด 30 เดือนตามค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่เกิดขึ้นจริง พร้อมวงเงินพิเศษสำหรับการเตรียมความพร้อมกิจการเพื่อต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว โดยขยายเวลาผ่อนชำระตามความรุนแรงของผลกระทบในแต่ละพื้นที่ ส่วนลูกค้าที่ยังได้รับผลกระทบอยู่นั้นธนาคารจะติดตามประเมินสถานการณ์ในระยะถัดไปอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์ยืดเยื้อก็พร้อมที่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าด้วยมาตรการเพิ่มเติม
ที่มา: หนังสือพิมพ์เเนวหน้า