เอสซีฯ กางโรดแมปแผน5ปีปั้นรายได้1.5แสนล. ยินดี เศรษฐา ทวีสิน อาสาทำให้ปท.ชาติเจริญ

07 มี.ค. 2566 206 0

          เอสซี แอสเสทฯ ประกาศแผนโรดแมป แผน 5 ปี (2566-2570) ปันพอร์ตรายได้สู่ระดับ 1.5 แสน ลบ. ประเมินตลาดบ้านเดี่ยว คอนโดฯ ปี 66 ดีขึ้น ทุ่มลงทุน 25,000 ลบ.ลุยเปิด 25 โครงการใหม่ มูลค่า 40,000 ลบ. มั่นใจยอดขาย 30,000 ลบ. “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” ซีอีโอ SC ยินดี “เศรษฐา ทวีสิน” รับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาฯ เป็นคนเก่ง อาสาทำให้ประเทศชาติเจริญ มองปมเรื่องทุนจีนสีเทา อาจกระทบบ้าง !

          นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวว่า 3 ปี ที่ผ่านมา ที่ เอสซีฯ สามารถผ่านพ้นวิกฤตมาได้ ทำให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นและมีความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจ โดยทิศทางจากนี้ จะเดินไปตามแผนโรดแมป 5 ปี (2566-2570) ผ่านการขับเคลื่อนบนยุทธศาสตร์ SC Thriving Beyond ตั้งเป้ารายได้ 5 ปี ทะยานสู่รายได้ 150,000 ล้านบาท และตั้งเป้าการลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท หลักๆจะเน้นเพื่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย

          โดยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2566 นั้น เริ่มดีขึ้น โดยบริษัทได้วางงบประมาณ 25,000 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุน 80% ในการพัฒนาโครงการเพื่อขาย และ 20% ในธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ

          ในด้านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ปีนี้จะเปิดโครงการใหม่รวม 25 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ  22 โครงการ รวมมูลค่า 30,000 ล้านบาท โดยจะมีโปรดักส์ครอบคลุมทุกระดับราคา 2.5-มากกว่า 150 ล้านบาท และเป็นปีแรกที่บริษัทจะพัฒนาสินค้าในระดับราคามากกว่า 100 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “95E1” แบรนด์บ้านใหม่ในเซกเมนต์ Ultimate Luxury ราคาเริ่มต้นสูงสุดที่เคยเปิดขายมา ด้วยราคาเริ่มต้น 100 ล้านบาท จนไปถึง 150 ล้านบาท จำนวนจำกัดเพียง 10 ยูนิต มูลค่าโครงการ 970 ล้านบาท

          นอกจากนั้น ได้เปิดตัว #บ้านเกมเมอร์ (Gamer’s Home) บ้านที่ร่วมออกแบบโดยเกมเมอร์ชื่อดัง Willcomeback และ MNJ TV เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้านในสายอาชีพยุคใหม่มาแรง อย่าง Streamer หรือ Content Creator ทั้งหลาย พร้อมเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ วันที่ 20 มี.ค. 66 ณ โครงการ Venue ID มอเตอร์เวย์-พระราม 9 ราคาเริ่มต้น 14.29 ล้านบาท

          สำหรับโครงการแนวสูง เปิดใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท โดยเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ บน 2 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ ย่านรัชดา-พระราม 9 ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรม มูลค่าโครงการ 5,500 ล้านบาท ราคาเริ่ม 2 ล้านต้น จำนวน 1,000 ยูนิต ซึ่งเป็นเซกเมนต์ใหม่ของ SC ทำเลแห่งที่สองคือ เกษตรศรีปทุม ตรงข้ามมหาวิทยาลัยศรีปทุม มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท และโครงการคอนโด SCOPE ประสานมิตร เจาะกลุ่มลูกค้า International Premium ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท และมีแผนที่จะเปิด SCOPE ทองหล่อ ราคา เริ่มต้น 150 ล้านบาทต่อยูนิต ทั้งนี้ หากรวมกับการเปิดโครงการในปี 2566 จะทำให้บริษัทมีโครงการเปิดขาย 76 โครงการ มูลค่ารวม 90,000 ล้านบาท

          สำหรับ ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ ปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจสำนักงานให้เช่าจำนวน  120,000 ตร.ม. นอกจากนั้น ยังได้มีการลงทุนในธุรกิจโรงแรม ตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะให้บริการโรงแรมจำนวน 1,000 ห้อง

          นอกจากนั้น บริษัทยังมีการลงทุนในธุรกิจคลังสินค้า โดยบริษัทตั้งเป้าจะพัฒนาพื้นที่เข้าสู่ตลาดประมาณ 1-1.5 แสน ตร.ม. และวางเป้าพัฒนาพื้นที่ Warehouse ให้ได้ 1 ล้านตร.ม.ภายในปี 2573

          สำหรับในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าโตต่อเนื่องด้วยยอดขาย 30,000 ล้านบาท เติบโต 23% โดยแบ่งเป็น โครงการเพื่อขายแนวราบ 65% และโครงการเพื่อขายแนวสูง 35% และสร้างรายได้รวม 25,000 ล้านบาท เติบโต 16% ทั้งจาก โครงการเพื่อ ขาย และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ในสัดส่วน 95 : 5 ตามลำดับ

          “เศรษฐา ทวีสิน” อาสาทำให้ประเทศชาติเจริญ

          นายณัฐพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มานั่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่า คุณเศรษฐา เป็นนักธุรกิจที่มีความสามารถ และผมชื่นชมเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ก็รู้สึกดีใจที่คนเก่ง คนมีความสามารถ อาสาทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ ก็อวยพรให้คุณเศรษฐา ช่วยประเทศชาติและทำให้ประเทศชาติเจริญเติบโตได้ดีอย่างที่ตั้งใจไว้

          นอกจากนี้ เชื่อมั่นว่าจากประสบการณ์ที่คุณเศรษฐามีและความสามารถในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ จะช่วยผลักดันให้ประเทศเติบโตไปได้ดีขึ้น ความเป็นอยู่ของประชากรน่าจะดีขึ้น และอยากให้รัฐบาลชุดใหม่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของประชากรในประเทศ เพราะคิดว่าประเทศจะเติบโตได้ดีจะต้องเติบโตไปด้วยกันในทุกๆกลุ่มและเรื่องปากท้องประชาชนก็เป็นเรื่องที่สำคัญ

          ลูกค้าจีน ไม่ใช่ ทุนสีเทา ทังหมด

          นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซีฯ กล่าวเสริมกรณีที่มีการกวาดล้างทุนจีนสีเทาว่า อยากให้มองว่า คนจีนไม่ใช่ทำธุรกิจสีเทาทั้งหมด และคนจีน ที่อยู่ในประเทศ ไทยเป็นเวลานาน ต้องการปักหลังอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอย่าไปเหมารวม ว่าคนจีนจะเป็นสีเทา ซึ่งในแต่ละอุตสาหกรรมก็มีธุรกิจของชาวจีนอยู่ สิ่งสำคัญเราจะทำอย่างไรที่จะดึงทุนต่างๆเข้ามาร่วมพัฒนาประเทศ แต่ก็ยอมรับว่าในระยะแรกที่เกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ก็มีผลกระทบต่อตลาดบ้านหรูบ้าง แต่เป็นเพียงระยะสั้น ซึ่งขณะนี้ก็เป็นปกติแล้ว

ที่มา: