อสังหาฯ โอดครึ่งแรกปี'67 เงียบเหงา

06 มี.ค. 2567 194 0

         ลุ้นธปท.ลดดอก - ดีมานด์ต่างชาติฟื้น

         แห่ชิง 'บ้านเดี่ยว-คอนโดหรู' บิ๊กไซซ์

        น.ส.รุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในช่วงต้นปีนี้ การซื้อขายจะค่อนข้างเงียบ คาดแนวโน้มจะคึกคักมากขึ้นครึ่งหลังของปี และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จีดีพีที่อ่อนแอ เป็นปัจจัยลบต่อภาคที่อยู่อาศัย แม้ผู้พัฒนาโครงการหลายรายประกาศแผน เพิ่มการเปิดตัวบ้านและคอนโดมิเนียมปี 2566 แต่ใช้เวลาประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยทางเศรษฐกิจเชิงลบทั้งในประเทศและทั่วโลกต่อความสนใจการซื้อที่อยู่อาศัย แสดงถึงกิจกรรมที่ชะลอตัวมากขึ้น มีการเปิดตัวโครงการน้อยลง เมื่อเทียบกับปี 2565

        น.ส.รุ่งรัตน์กล่าวว่า ตลาดที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ เติบโตเต็มที่และแข่งขันสูง ผู้พัฒนาโครงการต้องปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มตลาด โดยต้นปีนี้มีแนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองความเคลื่อนไหวมากขึ้นในกลุ่มลักชัวรี่และซุปเปอร์ลักชัวรี่ที่หลายโครงการผุดไม่เกิน 100 ยูนิต และเน้นยูนิตใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้ออยู่อาศัยเองและเป็นบ้านหลังที่สองสำหรับผู้ซื้อชาวต่างชาติ แม้คาดว่าการเปิดตัวคอนโดมิเนียมกลางเมืองสูงกว่าปี 2566 แต่ผู้พัฒนาโครงการยังไม่เปิดตัวจนกว่าจะได้รับความเชื่อมั่นเพียงพอจากแคมเปญการตลาด และส่วนใหญ่เลื่อนเปิดช่วงครึ่งปีหลัง

        ส่วนแนวราบคึกคักมาก 2 ปีที่ผ่านมาจากดีมานด์สะสม ดีมานด์ใหม่ คาดปีนี้เปิดตัวน้อยลง เพราะซัพพลายเพิ่มขึ้นและธนาคารที่เข้มงวดการให้สินเชื่อมากขึ้นทั้งสินเชื่อโครงการและรายย่อย โดยแนวโน้มเน้นตลาดระดับบน 15-30 ล้านบาท ที่มีดีมานด์แท้จริง

        น.ส.อาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า คาดการณ์ครึ่งปีแรกจะมีเปิดตัวโครงการน้อยลง หวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ทำให้มีความเชื่อมั่นมากขึ้นและอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ลดลง นำไปสู่การเปิดตัวโครงการที่เพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมมือสองจะได้รับความสนใจสำหรับยูนิตใหญ่ และยูนิตใหม่ตกแต่งพร้อมอยู่

        นายบานาบี้ สเวนสัน หัวหน้าแผนกการลงทุนและที่ดิน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า กรุงเทพฯยังคงดึงดูดต่างชาติเข้ามาลงทุน โดยผู้พัฒนาโครงการในประเทศหลายราย มีแผนพัฒนามิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ด้วยต้นทุนเงินกู้ ยืมในประเทศที่สูง ธนาคารเข้มงวดปล่อยกู้ ทำให้การเข้ามาลงทุนจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่น่าจูงใจ เพราะภาษีที่ดินสูงขึ้น เจ้าของที่ดินมีแนวโน้มร่วมมือกับนักพัฒนาโครงการหรือทำสัญญาเช่าระยะยาว คาดปีนี้จะมีซื้อขายที่ดิน การร่วมทุนเพิ่มมากขึ้น