อสังหาฯ ยังไม่แผ่วรายได้เข้าเป้าเล็งขยายลงทุนต่อ 

17 ส.ค. 2566 305 0

          นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) (RML) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนที่ผ่านมา (มกราคมมิถุนายน 2566) ว่ายอดขาย (Presales) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรก โดยหลักๆ มาจากโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ “ดิเอสเทลล์ พร้อมพงษ์” คอนโดฯ อัลตร้าลักชัวรี่ ขณะเดียวกัน ยอดขาย ทุกโครงการที่เปิดขายอยู่ใกล้จะปิดการขาย (sold out) แล้ว โดย “ดิเอสเทลล์ พร้อมพงษ์” มียอดขายถึง 90% และ “เทตต์ สาทร ทเวลฟ์” (Tait Sathorn 12) คอนโดฯ ลักชัวรี่ ใจกลางสาทร ยอดขายไปแล้วถึง 95% รวมถึงบริษัทยังมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานลักชัวรี่ Grade A+ อย่าง “โอซีซี” (วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์)

          “ช่วงไตรมาส 2/66 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้รับผลกระทบจากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.75% เป็น 2% ต่อปี อีกทั้งราคาวัสดุก่อสร้างและต้นทุนแรงงานก็ยังมีการปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้รับผลกระทบไม่มากนัก โดยบริษัทฯ สามารถตรึงราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้างและต้นทุนแรงงานของโครงการปัจจุบันทั้งหมดตั้งแต่ช่วงที่มีการเปิดตัวโครงการ รวมถึงบริษัทฯ ยังสามารถบริหารต้นทุนทางการเงินที่เป็นดอกเบี้ยทั้งแบบอัตราลอยตัวและอัตราคงที่ได้เป็นอย่างดี” นายกรณ์ กล่าว

          สำหรับ 6 เดือนสุดท้ายของปี 2566 บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 4,682 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 โดยจะทยอยรับรู้รายได้โครงการ “ดิเอสเทลล์ พร้อมพงษ์” และเตรียมรับรู้รายได้โครงการ “เทตต์ สาทร ทเวลฟ์” ซึ่งจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ของห้องชุดครั้งแรกในไตรมาส 3 ภายหลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ ตลอดจนยังคงหามุ่งหาผู้เช่า “โอซีซี” คาดว่าอัตราการเช่าโอซีซี เต็มพื้นที่เช่าในปี 2567 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดขายโครงการ “โรสวูด เรสซิเดนซ์เซส กมลา” จังหวัดภูเก็ต และจะ เริ่มขายโครงการอัลตร้าลักชัวรี่ แนวราบ บนทำเลสุขุมวิทในปลายปี

          ขณะเดียวกัน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) รายงานว่า 6 เดือนแรกของปีมีรายได้ 6,843 ล้านบาท และรายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำจากการดำเนินงานปกติ (Adjusted EBITDA) ที่ 1,493 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

          นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก Adjusted EBITDA ที่เติบโตขึ้น 33% เป็นตัวพิสูจน์การฟื้นตัวของอุตสาหกรรม ที่นี้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานี้ ถือเป็นช่วงที่เรากำลังสร้างความพร้อมเพื่อต่อยอดความสำเร็จในอีกขั้นหนึ่งซึ่งจะได้เริ่มเห็นผลชัดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567 อันประกอบไปด้วย 1.การพัฒนาโครงการที่พักอาศัยจำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท 2.การปรับปรุงโรงแรม ที่เป็นสินทรัพย์ศักยภาพของพอร์ตโฟลิโอของ SHR ได้แก่ โรงแรม Outrigger Fiji Beach Resort, โรงแรม ทราย ลากูน่า ภูเก็ต, โรงแรม ทราย พีพี ไอซ์แลนด์ วินเลจ และโรงแรมบางส่วนในสหราชอาณาจักร 3.การปรับกลยุทธ์การหาผู้เช่าในกลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน และ 4.การควบคุมแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าและพัฒนาที่ดินนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ “เอส อ่างทอง” รองรับดีมานด์ Eco Factory & Green industry สำหรับเทรนด์การลงทุนในอนาคต และมั่นใจว่าจะทำรายได้ตามเป้าหมาย ที่วางไว้ทั้งปี กว่า 16,000 ล้านบาท

          ขณะที่ นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการ ดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2566 ว่า พฤกษา โฮลดิ้ง หรือ PSH ทำรายได้รวม 7,107 ล้านบาท เติบโต 32% มีกำไรสุทธิ 1,038 ล้านบาท เติบโต 141% เมื่อเทียบกับ ไตรมาส 2 ปี 2565 และในครึ่งปีแรก ทำกำไรสุทธิ 1,690 ล้านบาท รายได้รวม 13,665 ล้านบาท โดยราว 700 ล้านบาท เป็นรายได้จากความสำเร็จในการสวอปหุ้นบริษัท อินโน พรีคาสท์ จำกัด ที่เป็นบริษัทย่อยของ PSH เพื่อนำไปลงทุนในหุ้นของบริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL ที่เป็นโอกาสทางธุรกิจ ที่จะสร้างรายได้และการเติบโตที่แข็งแกร่ง ของทั้งสองบริษัทฯ กำไรของครึ่งปีแรก ถ้าหักรายการพิเศษจากการสวอปหุ้นออก ธุรกิจหลักของกลุ่มก็ยังคงมีกำไรครึ่งปีแรกของปี 2566 เติบโตกว่า 10% จากปี 2565

 

 

ที่มา: