อสังหาฯสายไหมเทียบชั้นบางนา สถาพรฯ เปิด อิเธอร์นิตี้ รุกGEN Y 

09 ส.ค. 2565 385 0

 

           “สถาพร เอสเตท“วิเคราะห์ศักยภาพตลาดอสังหาฯสายไหม เทียบชั้นการเติบโตใกล้เคียงกับโซนบางนา มี อินฟราสตรักเจอร์ รองรับ เปิดบริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เชื่อมดีมานด์คนในเมือง พร้อมเปิดขายโครงการใหม่ “ดิ อิเธอร์นิตี้ โกร์ฟ สายไหม-พหลฯ” บ้านเดี่ยวแบบใหม่ เจาะกลุ่ม Gen Y คนรุ่นใหม่ แย้มแผนลงทุนปี 66 เปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่า 2,000 ล้านบาท

          นายสุนทร สถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด (SE) เปิดเผยถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ย่านสายไหมว่า เป็นพื้นที่กรุงเทพฯตอนเหนือ มีพื้นที่ติดกับถนนพหลโยธิน ลำลูกกา (จังหวัดปทุมธานี) คลองสามวา บางเขน ดอนเมือง โดยอยู่ใกล้กับพื้นที่ของหน่วยงานราชการทหารหลายแห่ง โดยเฉพาะกองทัพอากาศ รวมถึง ใกล้กับสนามบินดอนเมือง

          เป็นประตูที่เชื่อมการเดินทางระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ มีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว(หมอชิต-คูคต)เปิดให้บริการ รวมถึงมีศูนย์การค้าเข้ามาลงทุนเปิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงเป็นพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของจำนวนประชากร ส่งผลให้สายไหม-พหลฯ มีศักยภาพเทียบเท่ากับทำเลย่านบางนา

          โดยสายไหม ถือเป็น Top 3 ของทำเลที่อยู่อาศัยแนวราบ และเป็น Top 10 ของทำเลที่พักอาศัยยอดฮิตในกรุงเทพมหานคร ทำให้ความต้องการทำเลนี้มีการเติบโตและฟืนตัวอย่างต่อเนื่อง

          “ความเจริญของทำเลสายไหมเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง มีสนามบินดอนเมือง มีทางด่วน มีทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ และยิ่งเปิดบริการของรถไฟฟ้าสายเขียว มีผลให้ราคาที่ดินในย่านสายไหมปรับขึ้นจากราคาปลายๆ 20,000 บาทต่อตารางวา เพิ่มเป็นกว่า 30,000 บาทต่อตารางวา ขนาดที่ดิน 15-20 ไร่ หรือปรับขึ้นมาเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ซึ่งตัวเลขการเพิ่มขึ้นก็พอๆกับราคาที่ดินในโซนบางนาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5-6”

          ขณะที่ลูกค้าหลักๆ ในโซนดอนเมือง สายไหม เดิมเป็นทหารจากกองทัพอากาศ แต่ในปัจจุบัน ด้วยการเดินทางที่สะดวก รถไฟฟ้าเข้ามาถึง กลุ่มลูกค้าในเมือง (จากซีบีดี) มีสัดส่วนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยในย่านสายไหมมากขึ้น น่าจะมีอยู่ประมาณร้อยละ 20 ส่งผลให้อัตราดูดซับในบริเวณนี้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 4-5 หลัง

          ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงทุนและพัฒนา เปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 3 ภายใต้ชื่อ “ดิ อิเธอร์นิตี้ โกร์ฟ สายไหม-พหลฯ” เป็นบ้านดีไซน์ใหม่ เพียง 92 หลัง มูลค่าโครงการ 560 ล้านบาท บนพื้นที่โครงการ 12-2-67.6 ไร่ มีแบบบ้าน 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบ WELLNESS บ้านหน้ากว้าง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 155 ตารางเมตร (ตร.ม.) และแบบ BALANCE บ้านแนวลึก 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม. ราคาขายเฉลี่ย 6 ล้านบาท เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y (อายุ 25-42 ปี) คือ ชายหนุ่ม หญิงสาวรุ่นใหม่ และครอบครัวรุ่นใหม่ที่มีลูกค้าใน Gen Alpha (อายุ 0-12 ปี) ซึ่งทางโครงการวางเป้ายอดขายในช่วงเปิดจองอย่างเป็นทางการในวันที่ 20-21 สิงหาคมนี้ไว้ประมาณ 20 หลัง

          สำหรับแผนการลงทุนในปลายไตรมาส 4 นั้น ทางบริษัทสถาพรฯ เตรียมเปิดตัวโครงการแนวราบระดับไฮเอนด์ ในโซนพระราม 9 บนเนื้อที่โครงการ 14-15 ไร่

          นายสุนทร กล่าวว่าปี 2566 บริษัทยังคงเน้นลงทุนวางเป้าเปิด 3 โครงการมูลค่า 2,000 ล้านบาท เฉลี่ยโครงการละ 600 กว่าล้านบาท แบ่งเป็น แนวราบ 2 โครงการ และ 1 คอนโดมิเนียมในเมือง เนื่องจากแนวโน้มตลาดคอนโดฯมีสัญญาณกลับมาพลิกฟืน ทำให้เราต้องเตรียมความพร้อมมีสินค้ารองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในเมือง.

 

 

ที่มา: