อนันดาฯ เพิ่มแนวราบลักชัวรีชูราคา บ้าน-คอนโด ต้นทุนเดิม

19 พ.ค. 2565 441 0

        “อนันดา” คึกคักต้อนรับเปิดเมือง เตรียมพอร์ตบ้าน-คอนโดฯ ต้นทุนเดิมกว่า 58,725 ล้านบาทรอเสิร์ฟลูกค้าไทย-ต่างชาติ เล็งปรับพอร์ตสินค้าเพิ่มแนวราบ Luxury Segment ไตรมาส 2 เตรียมรับรู้รายได้คอนโด 2 โครงการใหม่ 6,000 ล้านบาท เดินหน้าเปิด 7 โครงการใหม่ 29,098 ล้านบาท จ่อออกหุ้นกู้ 3,000 ล้านบาทรองรับลงทุนในอนาคต

          นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์ในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นมาก หลังการเปิดประเทศ ซึ่งส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเริ่มกลับมาคึกคัก โดยหลังจากปลดล็อกระบบ “Test & Go” ยิ่งส่งผลให้ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตคล้ายปกติมากขึ้น และที่สำคัญคือการกลับมาของไลฟสไตล์ชีวิตของคนเมือง ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดที่อยู่อาศัยในเมือง (CBD) โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นสินค้าหลักของอนันดาฯ

          อย่างไรก็ตามปัจจัยลบจากการปรับขึ้นของราคาที่ดิน ราคาน้ำมัน และการก่อสร้าง รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อยังส่งผลต่อต้นทุนพัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งทำให้บริษัทอสังหาฯ ต้องรับมือกับการปรับราคาขายที่อยูอาศัยมากขึ้น ทั้งนี้ การปรับตัวของต้นทุนก่อสร้างที่ในขณะนี้ อาจกระทบกับราคาขายของหลายๆ บริษัท แต่ในส่วนของอนันดาฯ ซึ่งมีพอร์ตสินค้าพร้อมอยู่ และสินค้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เป็นสินค้าต้นทุนเดิมทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวของต้นทุนใหม่

          ปัจจุบันอนันดาฯมีพอร์ตสินค้าพร้อมขายกว่า 58,725 ล้านบาท ในช่วงที่ผ่านมาอนันดาฯได้ศึกษาและนำผลข้อมูลเชิงลึกความต้องการที่อยู่อาศัยผู้บริโภคมาปรับเปลี่ยนสินค้าให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการ

          นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า สำหรับพอร์ตสินค้าพร้อมอยู่ และสินค้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างมูลค่ากว่า 58,725 ล้านบาท แบ่งออกเป็นโครงการที่เป็น RTM (READY TO MOVE) มูลค่า 29,324 ล้านบาท โครงการที่จะสร้างเสร็จ ในปี 65-66 มูลค่า 19,397 ล้านบาท และ 3 จาก 7 โครงการ NEW PROJECTS LAUNCH ที่จะสามารถรับรู้รายได้ปี 65-66 มูลค่า 10,004 ล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการเติบโตในอีก 3 ปีข้างหน้า

          นอกจากนี้ อนันดาฯ ได้เพิ่มพอร์ตสินค้าแนวราบเซกเมนต์ลักชัวรี โดยเปิดตัวโครงการ Pool Villa พระราม 9-อโศก ขณะนี้มียอดพรี บุ๊กกิ้งแล้ว 20% และคาดว่าในไตรมาส 2 จะเริ่มทำยอดขายและรับรู้รายได้อย่างก้าวกระโดด จากการเตรียมรับรู้รายได้จาก 2 โครงการคือไอดีโอจรัญสนิทวงศ์ 70 แลไอดีโอพระราม 9-อโศก ซึ่งจะสร้างเสร็จและทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส2และไตรมาส3 มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท

          ยังมีอีก 6 โครงการ ที่เตรียมปิดการขายในปีนี้ มูลค่า 9,812 ล้านบาท ได้แก่ โครงการอาร์เทล เอกมัย-รามอินทรา มูลค่า 1,531 ล้านบาท โครงการไอดีโอ สาทร-วงเวียนใหญ่ มูลค่า 2,352 ล้านบาท โครงการไอดีโอ รัชดา- สุทธิสาร มูลค่า 1,527 ล้านบาท โครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 66 มูลค่า 2,155 ล้านบาท โครงการยูนิโอ สุขุมวิท 72 เฟส 2 มูลค่า 1,866 ล้านบาท และโครงการยูนิโอ ทาวน์ เพชรเกษม 110 มูลค่า 383 ล้านบาท

          ส่วนแผน 7 โครงการ มูลค่ากว่า 29,098 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และแนวราบ 2 โครงการ  สำหรับโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์คาดว่าสามารถรับกระแสเงินสดที่เป็นรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) จาก 5 โครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มเปิดดำเนินการโครงการซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9 ในเดือนมีนาคม และจะเปิดต่อเนื่องอีก 4 โครงการ คือแอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก, แอสคอทท์ เอ็มบาสซี สาทร, ไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก และซัมเมอร์เซ็ต พัทยา ในเดือน ก.ค.-ต.ค. ปีนี้

ที่มา: