สถาพร เอสเตทฯ ขึ้นคอนโดหรูฟรีโฮลด์ เยื้อง วัน แบงค็อก รับดีมานด์เมกะโปรเจกต์

06 พ.ค. 2565 435 0

        “สถาพรเอสเตทฯ” อสังหาฯรายกลาง มองเศรษฐกิจไทยกำลังพลิกฟื้น หลังเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจุดติด ส่งออกดี การผลิตอุตฯ-ททท.หนุนภาพรวมครึ่งปีหลัง พร้อมเดินหน้ารีเฟรชแบรนด์ใหม่ ขยายการลงทุน ทุ่มเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 3,000 ลบ. ขึ้นโครงการ “เดอะ คราวน์ เรสซิเดนท์เซส” คอนโดฯหรูฟรีโฮลด์ ราคา 6-20 ลบ. มองเมกะโปรเจกต์พระราม 4 แม่เหล็กใหญ่หนุนกำลังซื้อ

          นายสุนทร สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด (SE) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพทั้งโครงการคอนโดมิเนียม บ้าน และทาวน์โฮม เปิดเผยภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปี 2565 ว่า เครื่องยนต์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเริ่มจุดติดแล้ว เริ่มจากเครื่องยนต์ในด้านการส่งออก เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมากตั้งแต่ไตรมาสแรกเป็นต้นมา ต่อเนื่องด้วยภาคการผลิตของอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว ที่จะเป็นแรงหนุนต่อภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปีนี้ และหากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน คลี่คลายลง จะช่วยลดแรงกดดันในเรื่องของราคาน้ำมันลงได้ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนจากราคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นทั้งปีเฉลี่ยประมาณ 5-6% แต่หากการสู้รบยังยืดเยื้อ มีความเป็นไปได้ที่ต้นทุนวัสดุก่อสร้างซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของการก่อสร้าง อาจปรับขึ้นเฉลี่ยทั้งปีราว 8-9%

          “ปัญหาสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องเจอและต้องหาวิธีบริหารให้ดี คือ เรื่องต้นทุนเงิน เพราะเรื่องนี้จะเกี่ยวโยงไปถึงการเตรียมเงินที่จะบริหารให้กับบริษัทรับเหมาก่อสร้างโครงการด้วย และหากเรามีพันธมิตรกลุ่มวัสดุก่อสร้างและบริษัทรับเหมาด้วยแล้ว จะทำให้เรามีโอกาสในการเดินหน้าพัฒนาโครงการได้”

          สำหรับแผนธุรกิจในปี 2565 นั้น บริษัทฯ ได้มีการรีเฟรชแบรนด์ (Brand Refresh) ปรับสีและรูปแบบโลโก้ให้มีความทันสมัยเข้าใจได้อย่างชัดเจน พร้อมชูแนวคิดหลักในการดำเนินธุรกิจ นั่นคือ “PASSION FOR LIVING WELL” โดยสื่อถึงความมุ่งมั่นในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี โดยใส่ใจและให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของการออกแบบ

          โดยในปีนี้ บริษัทพร้อมลงทุนและพัฒนา 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 3,306 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวสูง 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ เดอะ คราวน์ เรสซิเดนท์เซส คอนโดฯไฮไรซ์ระดับลักชัวรีในรูปแบบฟรีโฮลด์ สูง 32 ชั้น ติดถนนพระราม 4 จำนวนยูนิตเพียง 183 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2,016 ล้านบาท ราคาตารางเมตร(ตร.ม.)ละ 2.5 แสนบาท ขนาดห้องชุดเริ่มตั้งแต่ 30 ตร.ม.ไปจนสูงสุด 100 ตร.ม. ราคาเบื้องต้น 6-20 ล้านบาท ซึ่งในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ จะเปิดให้ชมสำนักงานขาย

          “ราคาที่ดินบริเวณนี้ ถ้าในช่วงนี้ที่มีโควิด รารายังขยับขึ้นเฉลี่ยปีละร้อยละ 6-7 และถ้าในภาวะปกติ จะปรับขึ้นราวร้อยละ 9 โดยแปลงที่จะก่อสร้างคอนโดฯ ซื้อมา 3 ปีที่ผ่านมา และด้วยจังหวะที่ดี บริษัทได้ตัดสินใจเปิดโครงการ เนื่องจากโควิดเริ่มคลี่คลาย ตลาดคอนโดฯมีสัญญาณการฟื้นตัว ประกอบกับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คอนโดฯ ใจกลางศูนย์กลางธุรกิจมีการเปิดตัวน้อย ส่วนใหญ่จะไปขึ้นโครงการคอนโดฯรอบนอกเมือง ซึ่งที่ตั้งของโครงการเดอะ คราวน์ เรสซิเดนท์เซส อยู่ใจกลาง Hub of Bangkok Connections เชื่อมต่อทั้ง 2 ซีบีดี ทั้งสุขุมวิท และ สาทร-สีลม อีกทั้งโครงการยังอยู่เยื้องเมกะโปรเจกต์ วัน แบงค็อก”

          และอีก 2 โครงการใหม่ จะเป็นแนวราบ ได้แก่ ดิ อิเธอร์นิตี้ โกร์ฟ สายไหม-พหลฯ บ้านสไตล์ใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 92 ยูนิต มูลค่าโครงการ 560 ล้านบาท ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งสถานีคูคต และสถานี กม.25 ประมาณ 3 กม. เริ่มต้น 5.9 ล้านบาท เปิดพรีเซลในเดือน ก.ค.นี้ และโครงการ ดิ อิเธอร์นิตี้ พระราม 9 -วงแหวน (ใกล้ด่านทับช้าง) บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี เพียง 70 ยูนิต มูลค่าโครงการ 730 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท

          โดยในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายไว้กว่า 2,400 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนสำหรับโครงการแนวสูง 1,386 ล้านบาท คิดเป็น 58% และโครงการแนวราบอยู่ที่ 1,014 ล้านบาท คิดเป็น 42% พร้อมตั้งเป้ายอดโอนกรรมสิทธิ์ไว้ที่ 1,280 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนจากแนวราบ 800 ล้านบาท และแนวสูง 400 ล้านบาท

          “ช่วง 2-3 ปีนับจากนี้ บริษัทฯยังคงมุ่ง Balance Protfolio ระหว่างที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูง เพื่อรักษาสมดุลในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งในแต่ละปีจะเปิดโครงการใหม่อย่างน้อยปีละ 3 โครงการ ซึ่งบริษัทฯ ยังมีที่ดินสะสมอยู่หลายแปลง อาทิ ในจังหวัดสมุทรปราการ ประมาณ 8 ไร่ และสุขุมวิท ซ.50 ที่อยู่ในแผนของการพัฒนาโครงการปี 2566”

ที่มา: