ลูกหนี้รอเฮได้ลดดอก 1-2%

22 มิ.ย. 2564 454 0

           รายงานข่าวจากสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า ในเร็ว ๆ นี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเรียกสถาบันการเงินเข้าหารือเกี่ยวกับการปรับลดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อย หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนทั้งระบบ โดยเฉพาะลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคลและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โดยเบื้องต้นอาจจะปรับลดดอกเบี้ยส่วนนี้ลงอีก 1-2% ครอบคลุมสินเชื่อที่มีเพดานดอกเบี้ยสูงกว่า 20% ต่อปี เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อส่วนบุคคล นาโนไฟแนนซ์ และพิโกไฟแนนซ์ เป็นต้น คาดการลดดอกเบี้ยจะมีผล 1 ปีครึ่ง หรือถึงสิ้นปี 65

          ทั้งนี้หลังจากหารือกับสถาบันการเงินแล้ว ธปท.จะนำกลับไปพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยและรายละเอียดต่าง ๆ คาดจะมีความชัดเจนได้ในสัปดาห์หน้า โดยการลดเพดานดอกเบี้ยในครั้งนี้จะเน้นไปที่กลุ่มผู้กู้เดิม ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางและยังถูกคิดอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง แม้ว่า ธปท.จะลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อยประเภทต่างๆ ลงมาแล้วภายใต้มาตรการปรับโครงสร้างหนี้รายย่อย เพื่อช่วยลดภาระทางการเงินของผู้กู้จากผลกระทบโควิด-19 เมื่อเดือน ส.ค. 63

          แม้ว่าการลดเพดานดอกเบี้ยลง 1-2% จะไม่ช่วยเรื่องความสามารถในการชำระคืนนี้ของกลุ่มเปราะบางมากนัก แต่จะเน้นช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายเป็นหลัก เพื่อให้คนกลุ่มนี้ยังมีเงินเหลือพอสำหรับการยังชีพในภาวะวิกฤติ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าการลดเพดานดอกเบี้ยลงทุก 1% จะลดภาระดอกเบี้ยจ่ายลงได้ประมาณ 2,500 ล้านบาทต่อปี

          รายงานข่าว กล่าวว่า ส่วนผลกระทบการปรับลดเพดานดอกเบี้ยต่อสถาบันการเงินนั้น จะส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยของสถาบันการเงินลดลงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและนอนแบงก์ต่าง ๆ จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ก่อนหน้านี้ได้ปรับลดเพดานเมื่อวันที่ 1 ส.ค.63 ที่ผ่านมา โดยดอกเบี้ยบัตรเครดิตลดจาก 18% ต่อปี เหลือ 16% ต่อปี, ดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลจาก 28% ต่อปี เหลือ 25% ต่อปี และสินเชื่อจำนำทะเบียนจาก 28% ต่อปี เหลือ 24% ต่อปี เฉลี่ยลด 2-4% ต่อปีแบบถาวร

          อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาธปท.ได้มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ถูกกระทบจากโควิด-19 และแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินประชาชน เช่น มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ คลินิกแก้หนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ต่าง ๆ ทั้งลดดอกเบี้ยชั่วคราว พักชำระหนี้ ยืดระยะเวลาชำระ รวมหนี้ ซึ่งมีความช่วยเหลือทุกประเภทสินเชื่อ รวมทั้งมีช่องทางให้ลูกหนี้หรือผู้ที่ได้รับความไม่เป็นธรรมจากการใช้บริการผ่าน ทางด่วนแก้หนี้ ซึ่ง ธปท.จะประสานความช่วยเหลือกับสถาบันการเงิน

          นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การลดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อย เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์พร้อมดูแลลูกหนี้อยู่แล้ว ปัจจุบันในตลาดสินเชื่อมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ แต่สิ่งสำคัญคือการประเมินความเสี่ยง เพราะการคิดดอกเบี้ยจะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงลูกหนี้.

ที่มา: