รับสร้างบ้าน ฟื้นสวนศก.ซึม

23 ส.ค. 2565 377 0

          บุษกร ภู่แส

          กรุงเทพธุรกิจ

          เทรนด์บ้านหรู-ประหยัดพลังงานมาแรง

          สถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้าน ครึ่งปีหลัง 2565 มีแนวโน้มเติบโตที่ดี โดยเฉพาะบ้านหลังใหญ่ ทำเลกรุงเทพฯ และ เมืองท่องเที่ยว เขาใหญ่ พัทยา ระดับราคา 5-10 ล้านบาท ได้รับความนิยมสูง ขณะที่ตลาดต่างจังหวัด ราคา 2.5-3.5 ล้านบาท ฮอต!

          วรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ตลาดรับสร้างบ้าน ครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง พิจารณาจากยอด สั่งสร้างบ้านที่เติบโตในกลุ่มบ้านระดับ ราคา 5-10 ล้านบาท และกลุ่มบ้านหรูระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น เขาใหญ่ พัทยา ส่วนใหญ่สร้างเป็นบ้านหลังที่ 2

          ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด ความต้องการหลักอยู่ในกลุ่มบ้านราคา  2.5-3.5 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากผู้ที่เคย จ้างช่างทั่วไป เริ่มหันมาใช้บริการบริษัท รับสร้างบ้านมากขึ้น การขยายตัวของเศรษฐกิจในจังหวัดท่องเที่ยวที่เริ่มมี นักท่องเที่ยวกลับมา ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และดีมานด์ที่แท้จริงจากผู้บริโภคที่มีความพร้อมสำหรับปลูกสร้างบ้านหลังใหม่ ให้กับตนเองและครอบครัว

          โดยครึ่งปีแรกยอดจองสร้างบ้านในเดือน มี.ค. มีมูลค่า 3,600 ล้านบาท สูงในรอบ 5 ปี คาดสิ้นปีนี้ตลาดรับสร้างบ้านกลับมา ฟื้นตัวเท่าปี 2562 ก่อนโควิด-19 ด้วยมูลค่า 12,000 ล้านบาท สวนทางปัจจัยลบ ไม่ว่าจะภาวะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจในประเทศ ซบเซา รวมถึงสถานการเมือง

          “ลูกค้าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ เตรียมตัว ที่จะสร้างบ้านอยู่แล้ว ประกอบกับปัจจัยบวก จีดีพีครึ่งปีแรกโต 2.4% การท่องเที่ยวเริ่ม ฟื้นตัว โควิดคลี่คลาย รัฐผ่อนคลายมาตรการช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจกลับมา ผู้บริโภค มีความมั่นใจสร้างบ้านมากขึ้น เชื่อว่า ปีนี้จะ เป็นปีที่ดีที่สุดอีกปีหนึ่งของธุรกิจรับสร้างบ้าน สวนกระแสปัจจัยลบที่เข้ามาต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเงินเฟ้อ แรงงานขาดแคลน ดอกเบี้ยขาขึ้น”

          ปัจจัยลบที่อาจเข้ามามีผลกระทบต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน อาทิ การระบาดของโรค สายพันธุ์ใหม่ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ที่ส่ง ผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทค่อนข้างมาก ส่วนกลุ่มที่มีกำลังซื้อ บ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ไม่กู้เงินธนาคาร นิยมใช้เงินสด ผู้ประกอบการ รับสร้างบ้านส่วนใหญ่จึงหันมารับสร้างบ้านราคา 5-10 ล้านบาทมากขึ้น

          “ปลายปีนี้ ตลาดรับสร้างบ้าน (สมาคมฯ) จะมีมูลค่า 12,500 ล้านบาท กลับมาเท่า ปี 2562 ก่อนโควิด ซึ่งช่วงโควิดเคยลงต่ำสุด 11,000 ล้านบาท ในปี 2563 ส่วนปี 2564 ขยับขึ้นมา 5% อยู่ที่ 11,500 ล้านบาท”

          ภาพรวมของ “ราคา” รับสร้างบ้าน ต้นปี 2565 ปรับขึ้น 10% ในส่วนบ้านหลังใหญ่ ซึ่งไม่มีผลกระทบมากนัก เพราะลูกค้าเข้าใจสถานการณ์ต้นทุนที่ปรับขึ้น  ยกเว้น กลุ่มลูกค้าบ้านระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ได้รับผลกระทบทำให้ชะลอการสร้าง ไปก่อน

          ปัจจุบันผู้ประกอบการรับสร้างบ้านยังรอดูสถานการณ์ก่อน เพราะต้นทุนวัสดุก่อสร้างครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นแน่นอน  อย่างน้อย 3% ต้องรอดูว่าบริษัทรับสร้างบ้าน โดยรวมสามารถแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ได้มากน้อยแค่ไหน ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ “ราคา"เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจสร้างบ้าน

          “แนวโน้มวัสดุและค่าแรงปรับราคาขึ้น แน่นอน เพราะแรงงานยังขาดแคลนอยู่บ้าง ส่วนวัสดุหลักที่ขึ้นราคา คือ ซีเมนต์ เป็นผลมาจากต้นทุนราคาถ่านหินซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตซีเมนต์ขึ้นราคาไปไกล มากแล้ว มีแนวโน้มปรับราคาขึ้น หลังจากที่ อั้นมานานล่าสุดปรับราคาขึ้นมา 400 บาทต่อคิวแต่โชคดีที่ราคาเหล็กลดลงมา ถือเป็นปัจจัยลบที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด”

          อย่างไรก็ดี เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงก่อนส่งท้ายปี สมาคมฯ เตรียมจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุเอ็กซ์โป 2022 ภายใต้แนวคิด “สร้าง-เปลี่ยน-โลก” วันที่ 14-18 ก.ย.  มีบริษัทรับสร้างบ้านและบริษัทวัสดุรวมกว่า 40 บริษัท พร้อมแบบบ้านมากกว่า 1,000 แบบ ตั้งแต่ 1-100 ล้านบาท โดยเทรนด์แบบบ้านปีนี้เน้นความทันสมัย ดีไซน์ใกล้ชิดธรรมชาติและคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม ใส่ใจเรื่องสุขอนามัย สะดวกด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ประหยัดพลังงาน และใช้พลังงานทดแทน ไฮไลต์อยู่ที่นิทรรศการ “บ้านประหยัดพลังงาน”  การนำเสนอบ้าน ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

          นับเป็นเทรนด์บ้านยุคใหม่ที่มุ่งเน้นการช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

ที่มา: