ธอส.อุ้มชาวบ้าน ตรึงดอกเบี้ย ลดต้นทุนชีวิตตาดำๆ
แบงก์ขยับตามสเต็ป
แบงก์รัฐประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก 0.25 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่ใจดีตรึงดอกเงินกู้ หวังช่วยลดต้นทุนชีวิตชาวบ้านตาดำ ๆ ส่วนธนาคารกรุงเทพนำร่อง ขึ้นดอกกู้แล้ว 0.30-0.40 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่แบงก์เอกชนรายอื่นทยอยขยับตามสเต็ป หลังแบงก์ชาติ ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยตามนโยบาย
กรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ดอกเบี้ยขยับมาอยู่ที่ 1 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ธนาคารต่าง ๆ พิจารณาขึ้นดอกเบี้ยฝั่งเงินกู้และเงินฝากทันที โดยแต่ละธนาคารจะมีความแตกต่างกันไป เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารออมสิน จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ แต่ยังคงดอกเบี้ยเงินกู้เอาไว้ เพื่อดูแลประชาชนไม่ให้ภาระการเงินเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันก่อนปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทเอ็มอาร์อาร์ 6.245 เปอร์เซ็นต์ต่อปี, เอ็มแอลอาร์ 6.15 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และเอ็มโออาร์ 5.995 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ส่วนดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปจะอยู่ที่ 0.25 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.ยืนยันจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้กับลูกค้าจนถึงปลายปี 65 เพราะธนาคารต้องการแบ่งเบาภาระให้กับประชาชน แม้จะทำให้รายได้ ธอส. หายไปกว่า 1,900 ล้านบาท แต่หากในปี 66 ธอส.อาจทยอยปรับดอกเบี้ยสอดคล้องกับธนาคารอื่น ๆ โดยจะปรับตารางการผ่อนชำระในช่วงไตรมาสแรกปี 66 คาดว่าถ้าขึ้นดอกเบี้ย 0.25 เปอร์เซ็นต์ จะมีลูกค้ากระทบหลักพันบัญชี แต่หากขึ้นดอกเบี้ย 0.50 เปอร์เซ็นต์ จะกระทบหลักหมื่นบัญชี
ในส่วนของนางรัชนี นพเมือง รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ธนาคารประกาศปรับดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้เพิ่มขึ้น โดยดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้น 0.15-0.50 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ส่วนดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อเอ็มแอลอาร์ เพิ่มขึ้น 0.40 เปอร์เซ็นต์ต่อปี, เอ็มโออาร์ เพิ่มขึ้น 0.375 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และเอ็มอาร์อาร์ เพิ่มขึ้น 0.30 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา
ขณะที่นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต กล่าวว่า ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ธนาคารจะประชุมคณะกรรมการธนาคาร เพื่อพิจารณาปรับดอกเบี้ยทั้งฝั่งเงินกู้และเงินฝากว่าจะเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างหากธนาคารปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 0.20 เปอร์เซ็นต์ จะทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทเอ็มอาร์อาร์, เอ็มแอลอาร์ และเอ็มโออาร์ จะต้องขึ้นดอกเบี้ย 0.40 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากฐานลูกค้าเงินฝากออมทรัพย์ค่อนข้างมีจำนวนมาก ทำให้ต้องบริหารจัดการต้นทุน ที่ต้องให้เกิดสมดุลระหว่างเงินฝากและเงินกู้
อย่างไรก็ตามหากปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ซึ่งอาจจำเป็นต้องปรับขึ้น สามารถทำได้ เนื่องจากลูกค้ากลุ่มที่ฝากเงินฝากประจำ เป็นกลุ่มที่รอรายได้จากดอกเบี้ย ถ้าเงินเฟ้อขึ้น แต่ดอกเบี้ยเงินฝากกลุ่มนี้ไม่ขึ้นก็จะลำบาก ทั้งนี้ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 0.125 เปอร์เซ็นต์ต่อปี, เงินฝากประจำ 3 เดือน 0.4 เปอร์เซ็นต์, เงินฝากประจำ 6 เดือน 0.5 เปอร์เซ็นต์, เงินฝากประจำ 12 เดือน 0.6 เปอร์เซ็นต์ และเงินฝากประจำ 24 เดือน 0.6 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้เอ็มโออาร์ 6.15 เปอร์เซ็นต์, เอ็มแอลอาร์ 6.125 เปอร์เซ็นต์ และเอ็มอาร์อาร์ 6.28 เปอร์เซ็นต์.