ซีเอ็มซี วางเป้ารายได้ธุรกิจใหม่พุ่ง50% ปั้น โอ๊ควูด สวีท จิ๊กซอว์รุกโรงแรมรับเปิดปท.

13 ธ.ค. 2565 265 0



          “ซีเอ็มซี กรุ๊ป” เครื่องร้อน ! เดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจใหม่ สร้างความยั่งยืนของรายได้ที่สม่ำเสมอ ดันสัดส่วนแตะระดับ 50% ของรายได้ทั้งกลุ่ม ล่าสุดเปิดให้บริการแล้ว “โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ” เซอร์วิส เรสซิเดนซ์ จิ๊กซอว์สำคัญรุกธุรกิจโรงแรมและบริการ มั่นใจทำเลที่ตั้ง ติดรถไฟฟ้า เข้าสู่เมืองสะดวก แย้มแผนภายในปี 2570 จะบริหารห้องพักกว่า 6,000 ยูนิต พร้อมลงทุนศูนย์บริการทางการแพทย์ นำร่อง 10 ทำเลในกรุงเทพฯ

          นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) (CMC Group) เปิดเผยเป้าหมายการก้าวไปสู่ความเป็นเลิศในการพัฒนาที่อยู่อาศัย และการสร้างความยั่งยืนในเรื่องของรายได้ระยะยาวว่า ทาง CMC ได้รุกขยายธุรกิจใหม่ๆมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงใหักับบริษัท และเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านรายได้ให้กับกลุ่ม CMC นอกเหนือจากธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งในแผนจะให้สัดส่วนรายได้จากการขายและรายได้จากธุรกิจใหม่เท่าๆ กัน จากปัจจุบันรายได้จากการขายอสังหาฯ อยู่ที่ 78% และอีก 22 %มาจากธุรกิจใหม่ คาดว่าจะเห็นภาพการดำเนินธุรกิจครบวงจรมากขึ้นในปี 2566-2567

          สำหรับแนวทางการเข้าสู่ธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลดีต่อการมีฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั้งในธุรกิจบริการ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจเช่า ธุรกิจเทรดดิ้ง (สินค้าสำหรับการก่อสร้าง) ธุรกิจเฮลท์แคร์ เกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ ธุรกิจ โรงพยาบาล ธุรกิจบริการทางการแพทย์สำหรับผู้สูงอายุ เป็นต้น

          “อสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่มีรายได้สูงมาก และลงทุนสูง ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่ของ CMC จะมาจากโครงการอสังหาฯ ที่ยังมี แต่เป้าหมายข้างหน้า การลงทุนใหม่ๆ จะมาจากธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำเข้ามา อย่างการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมนั้น เราได้คิดมาตั้งแต่เริ่มโครงการ เพราะเราพิจารณาว่า การเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รายได้จะแกว่งตลอด การเข้าสู่ธุรกิจฮอสพิทาลิตี้ อสังหาฯ ประเภทให้บริการห้องพัก สร้างรายได้ระยะยาว จะทำให้ธุรกิจในกลุ่มของ CMC มีรายได้ที่สม่ำเสมอ” นายแพทย์วิเชียร กล่าว

          ล่าสุดทาง CMC ได้เปิดบริการ โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ รูปแบบในลักษณะ เซอร์วิส เรสซิเดนซ์ ที่พักให้เช่าระยะสั้นและยาว ตั้งแต่ 15 วัน ไปจนถึง 3 เดือนขึ้นไป (อยู่ในโครงการเดอะ คิวเว่ ติวานนท์ คอนโดฯ ระดับลักซ์ชัวรี) และด้วยทำเลที่ตั้งของโอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ ติดรถไฟฟ้าสถานีแยกติวานนท์ เดินทางเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ ได้สะดวก ใช้เวลาเพียง 30 นาที ประกอบกับทำเลจ.นนทบุรี หาแหล่งที่พักอาศัยชั้นดีค่อนข้างยาก โดยเฉพาะชาว ต่างชาติ ที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย เช่น นิคมบางกระดี และโครงการตั้งอยู่ใกล้กระทรวงสาธารณสุข แต่ละปีจะมีการประชุมระดับนานาชาติ ทำให้ชาวต่างชาติต้องมองหาที่พักอาศัยใกล้และเดินทางมาประชุมได้สะดวก รวมถึงยังมีข้าราชการระดับสูงที่ต้องมาประชุมวิชาการในแต่ละครั้งเป็นเวลานาน เป็นต้น

          “เราเพิ่งเข้าสู่ธุรกิจฮอสพิทาลิตี้ได้ประมาณ 2 ปี เป็นการสร้างแบรนด์ และลงทุนนะระยาว ที่คาดว่าจะเสริมสร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคต และถือเป็นโครงการแรกที่เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ ในการรุกเข้าสู่ธุรกิจในกลุ่มโรงแรมและการบริการอย่าง เต็มตัว ภายใต้การดูแลของ บริษัท ซีทูเอช จำกัด (C2H)”

          โดยการลงทุนใน โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ ใช้งบประมาณอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท คาดอัตราการจองห้องพักภายในสิ้นปีประมาณ 10% และปี 66 เพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 40% วางเป้าคืนทุนได้ภายใน 3 ปี

          และการขยายธุรกิจของ ซีทูเอช นั้น มีแผนการขยายธุรกิจโรงแรมและการบริการในรูปแบบ Mix used, Long-Short stay ทั้ง 5 ดาว และ 4 ดาว รองรับลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่ม Hospital, Medical Stay, Government, Corporate, Leisure (Long Stay)

          นอกจากนั้น สถานที่ตั้งของโครงการที่บริษัทมีแผนในการพัฒนาต่อยอด ยังเป็นพื้นที่ทำเลทองใจกลางสถานที่สำคัญ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายที่จะบริหารห้องพักให้ได้มากกว่า 6,000 ยูนิต ในปี 2570 ซึ่งเรามั่นใจที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจโรงแรมได้

          นายแพทย์วิเชียร กล่าวต่อว่า บริษัทยังมีแผนลงทุนศูนย์บริการทางการแพทย์ สำหรับผู้ป่วยในระยะพักฟื้น (Step-DownCars) จำนวน 10 แห่งในกรุงเทพฯ รวมถึงศูนย์พยาบาลดูแลผู้สูงอายุ และที่พักอาศัยหลังวัยเกษียณ

          โดยก่อนหน้านี้ บริษัทฯได้ลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล ป.แพทย์ ที่เปิดให้บริการ 2 แห่ง คือ โรงพยาบาล ป.แพทย์ 1 และ ป.แพทย์ 2 รวม 300 เตียง ในจังหวัดนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของจังหวัด และมีแผนที่จะนำบริษัท เอ็น.ดี.เอส 34 จำกัด ที่บริษัทฯถือหุ้นอยู่ 25% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
 

ที่มา: