ชง 4 นโยบายอสังหาฯฟื้นเศรษฐกิจ เตือนขึ้นค่าแรง 'กระทบรอบด้าน' 

20 ก.ย. 2566 318 0

          นายพีระพงศ์ จรูญเอก นายกสมาคมอาคารชุดไทย และประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจ สังคม และการเงิน เป็นวาระด่วนของประเทศไทยที่มองว่าไตรมาส 4 จะเห็นมาตรการต่างๆ  จากภาครัฐ โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ถือเป็นเฮลิคอปเตอร์มันนี่ ที่เข้ามาโปรยเงิน เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนเศรษฐกิจ 1-2 เท่า

          “ต้องมาดูในรายละเอียด แต่ อยากให้จำเพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเงินหลายรอบอย่างที่รัฐต้องการ ซึ่งน่าจะใช้กับ ภาคธุรกิจที่มีโลคัลคอนเทนต์สูง เช่น ท่องเที่ยว อาหารการกิน เงินที่ได้จะอยู่ในประเทศ 100%”

          นอกจากนี้อยากให้รัฐบาลใหม่ ขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาฯ เพราะเป็นธุรกิจต้นน้ำที่สร้างมูลค่าเพิ่มมหาศาล เป็นโลคัลคอนเทนต์เกือบ 100%  โดย 4 มาตรการที่อยากให้รัฐสนับสนุน ได้แก่  นโยบายบ้านหลังแรก เพื่อกระตุ้นตลาดในประเทศ จาก 3-4 ปี ที่ผ่านมาคนซื้อบ้านหลังแรกน้อย เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด แต่ปีนี้ สถานการณ์ดีขึ้น แรงงานกลับมา มีงานทำ รัฐบาลควรมีการกระตุ้นตลาดคล้ายกับนโยบายรถคันแรกที่ใช้มาตรการลดหย่อนภาษีให้ผู้ซื้อ ที่อยู่อาศัยหลังแรกในระดับราคา ไม่เกิน 5 ล้านบาท

         นโยบายที่สอง ช่วยให้คนไทยสามารถซื้อบ้านหลังที่ 2-3 ได้ด้วยการยกเว้นมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อ เพื่อที่อยู่อาศัย (LTV-loan to value) เป็นเวลา 2-3 ปี (2567-2568) เชื่อว่าการเก็งกำไรหมดไปแล้ว เหลือแต่เรียลดีมานด์ซึ่งมีความต้องการบ้านหลังที่ 2 เพื่อได้อยู่ใกล้ที่ทำงาน ใกล้โรงเรียนลูก หรือทำงานเสริม

          นโยายที่สาม กระตุ้นกำลังซื้อต่างชาติ โดยเสนอแจก “มิดเทอมวีซ่า” อายุ 3-5 ปีให้ลูกค้าต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองไทย ราคา 3-5 ล้านบาท จากเดิมเน้นกลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูงให้เข้ามาอยู่เมืองไทย เพราะปัจจุบันสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ในโลก

          นโยบายที่สี่ เพื่อแก้ปัญหา นอมินีในธุรกิจแนวราบ โดยบังคับให้ต่างชาติซื้อโครงการจัดสรรได้ ไม่เกิน 25% (24.9%) ในโครงการ โดยในกรุงเทพฯ ระดับราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท ต่างจังหวัดราคาไม่ต่ำกว่า 6 ล้านบาท เพื่อไม่ให้กระทบกำลังซื้อลูกค้า คนไทยส่วนใหญ่ของคนที่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท

          “แม้ว่าราคาบ้านที่ขายให้คน ต่างชาติจะแพงกว่าการใช้นอมินี 10% เชื่อต่างชาติยอมรับได้ ซึ่งทั้ง 4 นโยบายนี้น่าจะช่วยให้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ ดีมากขึ้น”

          ทางด้านนายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวถึงนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน และ 600 บาทต่อวันภายในปี 2570 จากเดิมค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 353 บาทต่อวัน เฉลี่ยปรับขึ้น 14-15% นั้น ทั้งหมดต้องผ่านคณะกรรมการเกี่ยวกับค่าจ้าง

          “ค่าจ้างอัตราสูงแต่ไม่มีงานทำ ถ้าสูงไป เจ้าของกิจการก็ลดคนงาน เทียบอัตราต่ำแต่มีงานทำ รัฐบาลต้องมองระยะยาวเรื่องการลงทุน ต่างประเทศเข้ามาไทยกับเพื่อนบ้าน ทุกอย่างมีจุดสมดุล การขึ้นค่าแรง แต่ไม่มีการพูดถึงการควบคุม ราคาสินค้า ต่อให้ขึ้นค่าแรง แต่ราคาสินค้าขึ้นมากกว่าค่าแรงก็จะหมุนกลับมากระทบประชาชน ต้องมองหลายๆ ด้าน”

ที่มา: