ชงกองทุนหนุนอสังหา เพิ่มกำลังซื้อดัน'ศก.

18 ก.ค. 2566 227 0

 

          ต่อเนื่อง ชี้เป้า SIRI-ORI-AP ผลงานเด่น ปันผลระหว่างกาลสูง

          นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เป็นธุรกิจที่มีห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ อาทิ วัสดุก่อสร้าง, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ธุรกิจจัดสวน, ธุรกิจรักษาความปลอดภัย ฯลฯ ดังนั้นหากรัฐบาลสามารถกระตุ้นให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ก็จะเป็นการกระตุ้นให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมสามารถขยายตัวได้

          พร้อมกันนี้ ได้กล่าวแสดงทรรศนะเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายกระตุ้นกำลังซื้อ (Demand) อสังหาริมทรัพย์ให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนว่า อยากให้รัฐบาลจัดตั้ง “กองทุนส่งเสริมกำลังซื้อภาคประชาชน” ควบคู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อช่วยให้กำลังซื้อระดับกลาง-ล่างสามารถเข้าถึงสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ได้ ควบคู่กับการสร้างงาน ส่งเสริมให้มีรายได้ที่มั่นคงสามารถผ่อนชำระสินเชื่อได้ต่อเนื่อง (Supply Chain Resilience)

          “ปัจจุบันกำลังซื้อในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายกระจุกตัวอยู่เพียงกลุ่มกลางบน กำลังซื้อระดับกลาง-ล่างยังคงไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อของสถาบันการเงินได้มันเป็นปัญหาสะสม หาตั้งกองทุนขึ้นมา รัฐบาลมีเงินสนับสนุนเข้ามาก้อนหนึ่ง แล้วให้ผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาโครงการที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท กับลูกค้าเป้าหมายที่สนใจซื้อโครงการที่ทำสัญญาออมเงินเข้ามา ขณะเดียวกันก็เร่งฟื้นฟู - กระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต เมื่อคนมีเงินเดือนก็จะมีความสามารถในการผ่อนชำระ ก็จะสามารถเพิ่มลูกค้าฐานรากเหล่านี้กลับเข้ามาในระบบอีกเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการก็จะสามารถขยายฐานโครงการกลับลงมาเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มกลาง-ล่างเหล่านี้”

          อสังหายังไปต่อ

          สำหรับภาพรวมธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายทั้งปี 2566 ต่อเนื่องปี 2567 ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง หนุนจากกำลังซื้อโครงการแนวราบระดับกลางบน-ลักซ์ชัวรี (Luxury) และเสริมด้วยกำลังซื้อโครงการคอนโดมิเนียมที่เริ่มฟื้นตัวในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อาทิ AP, SIRI, ORI ที่สามารถกระจายพอร์ตโครงการได้ทั้ง แนวราบ, คอนโดมิเนียมจะยังคงสามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง

          “หากรัฐบาลสามารถผลักกำลังซื้อระดับกลางเข้าสู่ระบบได้ไม่เพียงแต่บริษัทขนาดใหญ่เหล่านี้จะสามารถเติบโตต่อเนื่อง บริษัทขนาดกลางอย่าง PHS, SENA, LPN ก็จะเริ่มเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง ขณะเดียวกันประชนชาก็มีที่อยู่อาศัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบันที่ต้องเช่า มันเป็นการยกระดับคุณภาพสังคม-เศรษฐกิจอย่างยั่งยืน”

          ขณะเดียวกันยังคงเห็นกำลังซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะจากจีน, รัสเซีย, สวีเดน, นอร์เวย์, เดนมาร์ก ในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว อาทิ ภูเก็ต, พัทยา, เชียงใหม่, เชียงราย, ระยอง, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี เร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และคาดว่าจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดปี 2567

          SIRI-ORI-AP ปันผลเด่น

          ด้านนายสรพงษ์ จักรธีรังกูร ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อสามารถรัฐบาลได้ รัฐบาลจะดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น-กลาง-ยาว ส่งผลให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เบื้องต้นยังคงคาดการณ์ผลการดำเนินงานของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 (2H/66) ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2566 (1H/66) ที่ผ่านมา หนุนจากความชัดเจนของสถานการณ์ทางการเมืองซึ่งน่าจะสร้างความมั่นใจต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ, ขณะเดียวกันผู้ประกอบการมีแผนเปิดโครงการใหม่จำนวนมากในช่วงราคาและทำเล ที่หลากหลาย

          เบื้องต้นยังคงมีมุมมองเป็น “กลาง” ต่อ กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมองว่ายอดขายใหม่ (Presale) ในปี 2567 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ทั้งจากความสามารถในการขยายฐานลูกค้าโครงการแนวราบ ออกสู่จังหวัดที่มีศักยภาพ, กำลังซื้อคอนโดมิเนียมที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง, ภาวะอัตราดอกเบี้ยทั้งในไทย และ ในต่างประเทศเริ่มเป็น “ขาลง”, ความต้องการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังแข็งแกร่ง โดยยังคงแนะนำนักลงทุนเลือกลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว อาทิ SIRI  ORI ที่คาดว่าจะประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2566 เติบโตได้อย่างโดดเด่น และ AP ที่ผลการดำเนินงานทั้งปี 2566 ยังมีแนวโน้มเติบโต

          “ระยะสั้นนี้ SIRI, ORI มีแนวโน้มผลการดำเนินงานดี ส่วนภาพรวมยังเลือก SIRI, ORI และ AP เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มอสังหาอีกประเด็นที่น่าจะเข้าซื้อหุ้นอสังหา ในระยะนี้คือการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เบื้องต้นคาดการณ์ไว้ที่ราว 2-4% เพราะส่วนใหญ่จะปันผลกลางปีน้อย และไปปันผลปลายปีสูง ซึ่ง SIRI, ORI มีแนวโน้มที่จะจ่ายปันผลที่อัตรา 4% ได้”

 

 

ที่มา: