จิณณ์ เวลบีอิ้งฯ ขานรับสังคมผู้สูงวัย

27 ก.พ. 2566 225 0

           ปักหมุด เขาใหญ่-เชียงใหม่-สมุย จับกลุ่มสูงวัยมะกันพักยาวที่ไทย

          “จิณณ์ เวลบีอิhง เคาน์ตี้” เด้งรับ “สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ” รุกขยายอาณาจักรรองรับลูกบ้านต่างชาติ-คนไทยวัยเกษียณในอเมริกา นำร่องปักหมุดเขาใหญ่-เชียงใหม่และสมุย

          ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ “สังคมผู้สูงวัย” (Aging Society) ตั้งแต่ปี 2548 และประเมินว่าในปีนี้จะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ ก่อนจะเข้าสู่สังคมสูงวัยขั้นสุดยอดในปี 2576 ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับผู้สูงวัยเติบโตระดับ “แสนล้านบาท” หากนับเฉพาะ “ธุรกิจดูแลผู้สูงวัย” คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท เติบโต 1.5 เท่าทุกปี ส่งผลต่อเนื่องให้ตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ หรือ Retirement Community มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ

          อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ได้เล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มผู้สูงวัยมากขึ้นซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง จึงทุ่มเม็ดเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาทดำเนินโครงการ “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” บนพื้นที่ 140 ไร่ ริมถนนพหลโยธิน รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นโครงการนำร่องดูแลผู้สูงวัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เมืองแห่งการดูแลผู้สูงวัย”

          นายทิมโมตี้ อีเมน เลิศสมิติวันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เวลบีอิ้ง จำกัด ในเครือ THG ผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุกับจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยไม่สมดุลกัน โดยเฉพาะเนิร์สซิ่งโฮมที่ครบวงจร ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีโครงการในลักษณะนี้เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เป็นการรีโนเวทรีสอร์ทเก่าและใช้พยาบาลชั่วคราวมาดูแลและประชาสัมพันธ์ว่าเป็นเนิร์สซิ่งโฮมครบวงจร แต่ในความเป็นจริงบางแห่งกลับไม่มี facility ที่ช่วยเหลือผู้สูงอายุ ไม่มีกิจกรรมรองรับ หรือไม่ได้คุณภาพตามที่ควรจะเป็น

          “ที่ผ่านมา mindset ของคนไทยเข้าใจว่า การดูแลพ่อแม่ ลูกหลานต้องดูแลเองถึงจะเป็นความกตัญญู แต่ปัจจุบันที่ผ่านมาด้วยการทำงานในอาชีพต่างๆ ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุของครอบครัวที่รายได้ไม่มากมักจะนำผู้สูงอายุไปพักที่บ้านพักคนชราซึ่งเราอยากให้คนไทยเปลี่ยน mindset ในลักษณะว่า การพาผู้สูงอายุไปอยู่ในสถานที่ที่มี facility และมี activity ที่ครบคือ การกตัญญูรู้คุณ เพราะเป็นการพามาอยู่ในสถานที่ที่ดี และทำให้มีสุขภาพดีขึ้น มีเพื่อนที่อยู่ในสังคมเดียวกัน ไม่ได้เป็นการนำพ่อแม่ไปทิ้ง”

          สำหรับจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ นอกจากจะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยแล้ว ยังให้ความสำคัญกับ Aging Wellness ในหลายส่วนตั้งแต่ Mental wellness การประเมินและดูแลโดยจิตแพทย์และนักจิตวิทยาในระยะเริ่มต้นไปจนถึงการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง (Palliative Care) เพราะในบางครอบครัวผู้สูงอายุเริ่มมีอาการอัลไซเมอร์ ทำให้ครอบครัวมีความทุกข์ในการดูแลผู้สูงอายุกลุ่มนี้ ในโครงการประกอบไปด้วย facility ที่ดี ครบ อยู่ใกล้โรงพยาบาล มีความสงบ มีเพื่อน มีกิจกรรมและการดูแลที่ถูกต้อง นอกจากกิจกรรมภายในโครงการแล้ว ยังมีกิจกรรมพาทัวร์ท่องเที่ยวสั้นๆ นอกโครงการเช่นทัวร์ธรรมะ เที่ยววัด เป็นต้น

          “ปัจจุบันมีบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุเกิดขึ้นหลายโมเดล แต่ในความเป็นจริงทฤษฎีกับปฏิบัติไม่เหมือนกัน สำหรับจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เราเป็นเบอร์ 1 ที่สมบูรณ์แบบทั้ง Health และ Wellness การเป็นแห่งแรก ทำให้เราได้เรียนรู้ประสบการณ์ก่อนคนอื่น เพราะฉะนั้นปัจจุบันเราค่อนข้าง Success และสมบูรณ์แบบที่สุดในการดูแลผู้สูงอายุ มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญในการดูแลผู้สูงอายุอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นแค่ Concept หรือ กำลังเริ่มคิด Concept แต่เราทำแบบจริงจังจนได้รับการยอมรับ และในส่วนของโครงการใหม่ๆ ที่เข้าสู่ตลาดนี้เชื่อว่ายังต้องใช้เวลาในการเรียนรู้อีกพอสมควร”

          ทั้งนี้จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เป็นโครงการนำร่องในธุรกิจที่พักผู้สูงวัยของ THG โดยโลเคชั่นปัจจุบันอยู่ใกล้กับสนามบินดอนเมือง เพราะการขยายของจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ หลังจากนี้คือ การขยายสาขาต่างจังหวัดจึงจำเป็นต้องมีแคมปัสหรือ headquarter ในทำเลที่ดี ในอนาคตในแคมปัสนี้จะมีทั้งในส่วนของ Major General Hospital ด้านหน้าโครงการเพิ่มขึ้นมา ทำให้จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ มีทั้งGeneral Hospital และ Hospital Residential ขณะเดียวกันจะขยายการลงทุนบริเวณพื้นที่ด้านหลังโครงการปัจจุบันเพิ่มเติม เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าในอนาคต

          ปัจจุบันจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ในส่วนของคอนโดที่อยู่อาศัยมีจำนวน 494 ยูนิต และโรงพยาบาลขนาด 55 เตียง สามารถปิดการขายได้แล้วกว่า 50% มีลูกบ้านที่อยู่ในโครงการทั้งอยู่ประจำและไป-กลับโดยเป็นคนไทย 80% ต่างชาติประมาณ 20% แต่ในอนาคตมีแผนเพิ่มสัดส่วนลูกบ้านชาวต่างชาติมากขึ้นสอดคล้องกับ Medical Tourism ซึ่งเป็นหนึ่งในวาระแห่งชาติของไทย และมีโอกาสในการเติบโตสูง

          โดยเฉพาะกลุ่มวัยเกษียณจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีรายจ่ายสำหรับการดูแลตัวเองของผู้สูงวัยเริ่มต้นสูงถึง 4,000 กว่าดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน แต่หากย้ายมาอยู่ในโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้งเคาน์ตี้ มีรายจ่ายเริ่มต้นเพียง 1,000 กว่าดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ดังนั้นในตลาดต่างชาติกลุ่มเป้าหมายหลักมีทั้งชาวต่างชาติและคนไทยในอเมริกาที่เกษียณแล้วต้องการกลับเข้ามาอยู่ในเมืองไทย

          “สเต็ปต่อไปคือการเปิดสาขาต่างจังหวัด ในลักษณะของ membership ซึ่งตอนนี้เราเริ่มหาพื้นที่ และมีผู้สนใจนำสถานที่ที่มีอยู่มาให้เราบริหารภายใต้แบรนด์ “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” 3 แห่ง คือ เขาใหญ่ เชียงใหม่และสมุย เพราะฉะนั้นโลเคชั่นตรงนี้จะเป็นสมองและหัวใจของจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราเห็นในโลเคชั่นตรงนี้คือ Facility ที่สามารถรักษาผู้สูงอายุที่ป่วย ฟื้นฟู กายภาพบำบัด และมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรม ในส่วน Active Living เช่น ตีกอล์ฟ โยคะ Social Ball รวมทั้ง Palliative care และผู้ป่วยติดเตียงที่จะต้องมีสเต็ปในการดูแล จนถึงการดูแลช่วงสุดท้ายของชีวิตอย่างมีความสุขและมีคุณภาพที่ดี ซึ่งในประเทศไทยศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่สามารถทำครบวงจรยังไม่มี มีแค่จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ที่เป็นเจ้าแรกซึ่งกรมอนามัยให้การยอมรับ”

ที่มา: