จับตาต่างชาติถือพาสปอร์ต2สัญชาติชอปคอนโดฯไทย

11 ส.ค. 2566 223 0

 

          การที่ ชาวต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น มีผลต่อเนื่องไปยังธุรกิจอื่นๆที่ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวและโรงแรม ชาวต่างชาติยังมีส่วนกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมที่เคยประสบปัญหาในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ กำลังซื้อต่างชาติโดยเฉพาะ"คนจีน” กลายเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาฯต้องการ เพราะการอาศัยเพียงกำลังซื้อคนไทย อาจจะไม่เพียงพอ หรือไม่สามารถที่จะสร้างกระแสเงินสดหมุนเวียนมากพอ ในการขยายตัวทางธุรกิจหรือการรักษาระดับรายได้ให้ต่อเนื่อง หรือมากขึ้นชดเชยจากที่ลดลงก่อนหน้านี้

          นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด (Property DNA) บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า “กำลังซื้อต่างชาติ” โดยเฉพาะจากคนจีนกลายเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการทุกรายต้องการมากในช่วงนี้ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับก่อนหน้านี้ เพราะกำลังซื้อคนไทยอาจจะไม่มากพอในการระบายสต๊อกคอนโดมิเนียม โดยกำลังซื้อต่างชาติยังมีอีกหลายสัญชาติไม่ใช่เพียงแค่กำลังซื้อของคนจีนเท่านั้น โดยเฉพาะกลุ่มของประเทศจากฝั่งตะวันตกที่รวมๆ แล้วจำนวนค่อนข้างมาก แต่กลุ่มผู้ซื้อที่เป็นคนในทวีปเอเชียก็มีไม่น้อยเช่นกัน และเริ่มเห็นประเทศใหม่ๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกำลังซื้อในตลาดคอนโดมิเนียมของประเทศไทยมากขึ้น อาจจะมีผู้ซื้อจากประเทศจีนเป็นหลัก แต่ก็มีผู้ซื้อจากประเทศอื่นๆ ในเอเชียเพิ่มเติมเข้ามามากขึ้น

          ก่อนหน้านี้ อาจจะมีกลุ่มผู้ซื้อจากทวีปยุโรป หรือสหรัฐฯ ออสเตรเลีย เป็นผู้ซื้อคอนโดฯในประเทศไทย รองจากผู้ซื้อชาวจีน มีกลุ่มผู้ซื้อจากเอเชียบ้าง แต่จำนวนไม่ได้มากเมื่อเทียบกับชาวตะวันตกอื่นๆ แต่ก็สามารถพิจารณาได้ว่ามีสัญญาณที่ดี เพราะกลุ่มผู้ซื้อจากทวีปเอเชีย อาจจะกลายเป็นผู้ซื้อหลักในอนาคตได้ ซึ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ กลุ่มผู้ซื้อชาวไต้หวันเท่านั้นที่มีการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯในประเทศไทยแบบต่อเนื่องมาโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

          กลุ่มผู้ซื้อชาวสิงคโปร์ และญี่ปุ่น อาจจะมีจำนวนที่ลดน้อยลงไปบ้าง จนอาจจะหลุดจาก 10 อันดับแรกไปในบางปี แต่ในระยะยาว จะยังมีอยู่ในตลาดคอนโดฯของประเทศไทย โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยมากเป็นอันดับที่ 1 หรือ 2 อยู่แล้ว ในขณะที่กลุ่มผู้ซื้อที่เป็นชาวอินเดีย และเมียนมา มีจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์มากติด 10 อันดับมา 2 ช่วงเวลาแล้ว คือตั้งแต่ปีที่แล้ว (2565) และช่วงไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2566 อาจจะมีจำนวนมากต่อเนื่องจนถึงตลอดทั้งปี พ.ศ. 2566

          กลุ่มผู้ซื้อ “ชาวอินเดีย” อาจจะอยู่ในช่วงของการเริ่มต้นเข้ามาลงทุนซื้อคอนโดฯในประเทศไทย ซึ่งก็เป็นไปตามกระแสการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2564-2565 เป็นต้นมา และกลุ่มของนายหน้าหรือบริษัทผู้ประกอบการอสังหาฯ ก็พยายามหาช่องทางในการเข้าไปเปิดตลาดคอนโดฯในอินเดีย เพื่อที่จะได้กำลังซื้อชาวอินเดียให้มากขึ้นต่อเนื่อง แต่อาจจะต้องรออีกระยะ เพราะพวกเขาเพิ่งเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมากไม่นานมานี้เอง อาจจะต้องรอให้เกิดการมาซ้ำ มาบ่อยมากขึ้นเหมือนกลุ่มผู้ซื้อคนจีน

          ในขณะที่กลุ่ม ผู้ซื้อชาว “เมียนมา” ในระยะยาวอาจจะมีจำนวนที่ไม่ได้มากมายแบบคนอินเดีย เพราะจำนวนของคนที่มีกำลังซื้ออาจจะไม่มากนัก แต่ในช่วงนี้อาจจะยังพอเห็นคนเมียนมาเข้ามาซื้อคอนโดฯ ในประเทศไทย เพราะปัจจัยในประเทศของพวกเขายังกดดันให้กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อมองหาที่อยู่อาศัย หรือที่ทำงานนอกประเทศเมียนมามากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา

          กลุ่มผู้ซื้อชาวจีน มีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีจำนวมากขึ้นในอนาคต เพราะการลงทุนชาวจีนส่วนหนึ่งหายไปจากเมืองสีหนุวิลล์ กัมพูชา ปล่อยโครงการที่กำลังจะพัฒนาให้กลายเป็นอาคารที่ก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ บางส่วนของนักลงทุนจากกัมพูชาน่าจะเลือกที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยอาจจะมองหาการซื้อคอนโดฯ เป็นทางเลือกที่สามารถทำได้ทันที ไม่ต้องรอขั้นตอนหรือการอนุมัติใดๆ นานเกินไป รวมไปถึงการเข้ามาเปิดนิติบุคคลเพื่อดำเนินธุรกิจต่างๆในประเทศไทย โดยธุรกิจที่เปิดกิจการก็เป็นธุรกิจทั่วไปที่ถูกต้องตามกฎหมายประเทศไทย รวมไปถึงการจัดตั้งนิติบุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมายประเทศไทย เพื่อที่พวกเขาจะได้ขอใบอนุญาตทำงานและสามารถอยู่อาศัยในประเทศไทยได้ยาวนาน กว่าการเข้ามาประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว

          นอกจากนี้ ยังมีชาวจีนหรือชาวเอเชียบางส่วน ที่มี พาสปอร์ต 2 สัญชาติ ซึ่งอาจจะเข้ามาในประเทศไทยด้วยพาสปอร์ตอื่นๆ ที่ไม่ใช่พาสปอร์ตของประเทศที่พวกเขาเกิด โดยพาสปอร์ตอื่นๆ นั้นได้มาด้วยการลงทุนตามที่กฎหมายของประเทศนั้นๆ กำหนด  ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพาสปอร์ตของสหภาพยุโรป หรือประเทศที่เป็นหมู่เกาะต่างๆ ก่อนหน้านี้ จึงได้เห็นข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติที่มาจากวานูวาตู ซึ่งมีจำนวนการโอนฯอยู่ในช่วงไตรมาสหนึ่ง แต่พอรวมเป็นข้อมูลรายปีก็ยังน้อยกว่า 10 อันดับแรกของปีนั้นๆ เพราะการเข้ามาในประเทศไทย ด้วยพาสปอร์ตที่มีความสะดวกมากกว่า ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจของชาวต่างชาติบางส่วน ซึ่งอาจจะมีการดำเนินกิจการ หรือธุรกิจที่ยังไม่ถูกกฎหมายของประเทศไทย เช่น ธุรกิจกาสิโนในประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทย ดังนั้น พวกเขาจึงอาจจะเลือกใช้พาสปอร์ตของประเทศอื่นๆเพื่อจะได้เลี่ยงการตรวจสอบ

          กำลังซื้อต่างชาติ จะยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการไทยแน่นอน โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังซื้อคนไทยยังไม่ฟื้นตัว หรือยังมีความสามารถในการซื้อไม่มาก ทั้งในแง่ของจำนวน และมูลค่า ผู้ประกอบการหลายรายพยายามหาช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนให้ได้มากที่สุด แม้ว่าในตอนนี้ ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ และเศรษฐกิจของประเทศจีนจะมีปัญหา และยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ก็ตาม แต่ด้วย จำนวนประชากรขนาดใหญ่ การเข้าถึงเพียงส่วนหนึ่งของประชากรทั้งประเทศก็เพียงพอในการช่วยให้ผู้ประกอบการระบายสต๊อกสินค้าแล้ว .

 

 

ที่มา: