คอนโดมิเนียม 168 อาคาร เข้าเกณฑ์ BEC - ดันค่าก่อสร้างพุ่ง 5%

09 พ.ค. 2566 206 0

           นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LWS) บริษัท วิจัยพัฒนาและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ไทยมีการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งของภาครัฐ ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิตพลังงานไฟฟ้า

          ทั้งนี้กระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการออกกฎกระทรวงกำหนดประเภท ขนาดของอาคาร และกำหนดวิธีในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2563 ซึ่งกฎกระทรวงดังกล่าวได้มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 รวมทั้งออกประกาศกระทรวงฯและประกาศกรมฯในปี 2564 มีผลบังคับใช้กับอาคารที่จะสร้างใหม่ หรือดัดแปลงอาคาร ให้มีการออกแบบเป็นไปตามข้อกำหนดกฎหมาย โดยเริ่มนำร่องใช้กับอาคารภาครัฐมาตั้งแต่ปี 2554 และเริ่มมีผลบังคับใช้กับการก่อสร้างอาคารสำหรับภาคเอกชน ในวันที่ 13 มีนาคม 2566 ซึ่ง พพ.ระบุว่า แม้จะส่งผลให้ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้น 5% แต่สามารถประหยัดค่าพลังงานได้ไม่น้อยกว่า 10% ต่อปี ระยะเวลาคืนทุน 3 ปี 6 เดือน

          โดยกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นเกณฑ์ที่เรียกว่า “เกณฑ์มาตรฐานอาคารด้านพลังงาน” (Building Energy Code หรือ BEC) ที่มีผลบังคับใช้กับอาคาร 9 ประเภท ที่มีขนาดพื้นที่รวมกันทุกชั้นในอาคาร หลังเดียวตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งสาระสำคัญของการกำหนดค่ามาตรฐานการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน มีการกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ทั้งสิ้น 6 ระบบ ได้แก่ ระบบเปลือกอาคาร, ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง, ระบบปรับอากาศ, อุปกรณ์ผลิตน้ำร้อน, การใช้พลังงาน โดยรวมของอาคาร และการใช้พลังงานหมุนเวียน

          นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า LWS ได้สำรวจข้อมูลคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่เข้าเกณฑ์ต้องขออนุญาตในการก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารตามเกณฑ์ BEC ในปี 2566 พบว่ามีทั้งสิ้น 168 อาคาร เป็นคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2566 จำนวน 76 โครงการ มูลค่ารวม 94,224  ล้านบาท โครงการที่เปิดตัวใหม่ในปี 2565 และจะเริ่มก่อสร้างในปี 2566 จำนวน 92 โครงการ มูลค่ารวม 135,297 ล้านบาท

 

ที่มา: