คลังสั่งแบงก์รัฐบาล ลดดอกเบี้ย ตั้งเป้าศูนย์เปอร์เซ็นต์
ช่วยชาวบ้าน-ผู้ประกอบการ เซ่น “พิษ โควิด” รมว.คลัง สั่ง แบงก์รัฐ หาทางลดดอก เบี้ยเหลือ0% ด่วน แบงก์ออมสิน เด้งรับรายแรก พักหนี้ทั้งต้น-ดอกเบี้ย ช่วยโรงแรม รีสอร์ท เกสต์เฮาส์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ นาน 6 เดือน ด้าน ธอส. ต่อมาตรการลดเงินงวดไปถึงสิ้นปี ขณะที่ กยศ. ลุยปรับโครงสร้างลูกหนี้ 3.6 ล้านราย เตรียมเงินกู้ยืมใหม่ 3.8 หมื่นล้าน ฝั่ง นายกฯ กำชับติดตามแก้หนี้ภาคครู-นักเรียน เข้มข้น
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นายกฤษฎา จีนะ วิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง สั่งการในที่ประชุมให้ธนาคารรัฐหาทางพิจารณาลดดอกเบี้ยเหลือ 0% เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากโควิดไปจนถึงปลายปีนี้ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร การท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิดรุนแรง ซึ่งธนาคารรัฐจะกลับไปหาข้อสรุปในการออกมาตรการช่วยเหลือว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใดและส่งเรื่องกลับมาให้คลังภายในสัปดาห์นี้ โดยการลดดอกเบี้ยดังกล่าวจะไม่ได้ใช้งบประมาณชดเชยจากรัฐบาล
“ที่ผ่านมาแม้แบงก์รัฐจะมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนมาแล้ว แต่บางแห่งก็อาจช่วยเหลือได้เพิ่มอีก ซึ่งตอนนี้มีเสนอมาแล้ว 1 แห่งว่าจะช่วยลดดอกเบี้ยเหลือ 0% และไม่ต้องผ่อนไปจนถึงสิ้นปี เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคล รวมทั้งบุคคลธรรมดา ซึ่งยืนยันว่าแนวทางนี้จะไม่กระทบต่อสถานะการเงิน และแต่ละธนาคารยังมีเงินทุนสำรองแข็งแกร่ง สูงเกินกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้”
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารได้ออกมาตรการยกเว้นการผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี โรงแรม รีสอร์ท เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ นาน 6 เดือน เพื่อให้สามารถประคองธุรกิจจนกว่าโควิดจะคลี่คลายและกลับมามีรายได้อีกครั้ง โดยจะทำให้เงินงวดลดเหลือศูนย์มีผลตั้งแต่เดือนก.ค.-ธ.ค. 64 สำหรับเงื่อนไขจะต้องมีสินเชื่อรวมกันไม่เกิน 250 ล้านบาท และมีหนี้ค้างชำระไม่เกิน 90 วัน สามารถแจ้งเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่บัดนี้ ที่สาขาธนาคารออมสิน หรือศูนย์สินเชื่อธุรกิจลูกค้าเอสเอ็มอี จนถึง 23 ก.ค. 64
นอกจากนี้ ธนาคารได้จัดทำสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนแก่เอสเอ็มอีท่องเที่ยว ได้แก่ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินให้กู้สูงสุดรายละ 500,000 บาท และ มาตรการสินเชื่อเอสเอ็มอี มีที่ มีเงิน สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว ใช้ที่ดินเป็นหลักประกัน ดอกเบี้ยปีแรก 0.1% บุคคลธรรมดากู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท นิติบุคคลไม่เกิน 50 ล้านบาท โดยลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือติดต่อที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.จะเร่งช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก โควิดตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ด้วยการขยายเวลาช่วยเหลือตามเงื่อนไขของแต่ละมาตรการไปจนถึงสิ้นปี 64 เช่น ลดเงินงวดผ่อนชำระเหลือ 25% หรือ 50% หรือ 75% ของเงินงวดที่ผ่อนชำระในปัจจุบัน ซึ่งเงินงวดที่ผ่อนชำระจะนำไปตัดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย หรือการพักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน เป็นต้น โดยการช่วยเหลือจะครอบคลุมทั้งลูกค้าที่เคยหรืออยู่ระหว่างใช้มาตรการของ ธอส. รวมถึงลูกค้าที่ยังไม่เคยเข้าร่วมมาตรการของธนาคาร
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า กยศ.พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล โดยเตรียมออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ช่วยผู้กู้ยืมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด เช่น ลดจำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระแต่ละงวด พักการชำระเบี้ยปรับ ยืดเวลาผ่อนให้นานที่สุด ตามความสามารถการชำระหนี้แต่ละคน นอกจากนี้จะชะลอการดำเนินคดีออกไปถึง 31 มี.ค. 65 ยกเว้นคดีที่จะขาดอายุความ รวมถึงการบังคับคดีจะพิจารณาบังคับคดีที่ใกล้จะขาดอายุความเท่านั้น และยังได้เตรียมวงเงินกู้ 3.8 หมื่นล้านบาท สำหรับให้นักเรียนกู้ยืมในปีการศึกษาใหม่ด้วย
ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ห่วงใยหนี้ครู บุคลากรทางการศึกษา และหนี้นักเรียน โดยเน้นให้มีมาตรการแก้หนี้ที่เป็นระบบและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อบรรเทาวิกฤติหนี้สินภาคประชาชน โดยในส่วนของหนี้นักเรียนให้ กยศ.ได้เตรียมวงเงินกู้ใหม่ 3.8 หมื่นล้านบาท รองรับผู้กู้ใหม่โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน และหาทางออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ 3.6 ล้านคน และผู้ค้ำประกัน 2.8 ล้านคน ซึ่ง กยศ. กำลังพิจารณาความช่วยเหลือเพิ่มเติมอยู่ ส่วนการช่วยเหลือครูและบุคลากรทางการศึกษา ทางออมสินได้จัดมหกรรมผ่อนปรนการชำระหนี้ครู นาน 12 เดือน โดยเปิดให้แจ้งความประสงค์ถึงวันที่ 30 มิ.ย.
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์