SAคาดไตรมาส2โตรับเปิดประเทศ ครึ่งปีหลังเล็งผุด 4 โครงการ มูลค่า 6,287 ล้าน

         SA ส่งซิกผลงานไตรมาส 2/65 โต อานิสงส์เปิดประเทศหนุนความต้องการที่อยู่อาศัยจากต่างชาติเพิ่ม ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ 5,000 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อกรอบุ๊ก 4,000 ล้านบาท ครึ่งปีหลังเปิดใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,287 ล้านบาท

          นายสุพล จงจินตรักษา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชี บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2565 จะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกมาจากการเปิดประเทศ ส่งผลให้นักท่องเที่ยว รวมถึงนักลงทุนเดินทางเข้ามาภายในประเทศไทยได้สะดวกขึ้น มีการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันโครงการของบริษัทก็ตั้งอยู่ในทำเลที่ต่างชาติรู้จัก และเป็นโครงการคอนโดมิเนียมรูปแบบ Branded Residence ซึ่งเป็นให้บริการผู้อยู่อาศัยให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น

          ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2565 โดยจะมีรายได้รวม 5000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังคงเป็นรายได้หลัก (มีสัดส่วนประมาณ 90% ของรายได้รวม) จำนวน 4,500 ล้านบาท ส่วนอีกจำนวน 500 ล้านบาท จะเป็นรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ รวมถึงรายได้ประจำ โดยล่าสุดบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงไตรมาส 4/2565 โครงการพระราม 9 อาคาร C ประมาณ 1,000 ล้านบาท จะสร้างเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์

          สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่อีกจำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,287 ล้านบาท  ได้แก่ โครงการ Siamese Home@Phaholyothin-Rangsit, โครงการ Siamese KIN Phase 2, โครงการ Siamese Talingchan และโครงการ Siamese Luxury Home @ Ratchapruek หลังจากเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงต้นปีไปแล้ว จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,713 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ Lanemark@Kasetsart TSH Station และโครงการ Monsane’ Exclusive Villa Ratchapruek-Pinklao ซึ่งยังคงเป็นไปตามแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ที่ประกาศไว้ช่วงต้นปี

          โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 บริษัทเชื่อว่าจะดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนวราบ ที่จะสามารถรับรู้รายได้ทันทีในช่วงปลายปี ประกอบกับบรรยากาศของการลงทุนฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น และโรคระบาดมีการควบคุมที่ดีขึ้น ปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงหนุนช่วยพลิกฟื้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 2565 ได้

          ส่วนความคืบหน้าธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) ที่บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ บริษัท ไซมิส แอสเทท แอนด์ เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด หรือ SAM ปัจจุบันอยู่ได้รับการอนุมัติแล้ว อีกทั้งยังมีผู้บริหารมืออาชีพด้วยประสบการณ์ในวงการบริหารสินทรัพย์มากว่า 30 ปี เข้าร่วมงาน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างวางแผนซื้อสินทรัพย์รอการขาย (NPA) และหนี้เสียที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มาบริหาร คาดจะเริ่มเห็นการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวในช่วงไตรมาส 2-3 ของปี 2565 นี้

          “หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทยมีอัตราลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น อีกทั้งรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการและเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เริ่มมีการเดินทางท่องเที่ยว และเดินทางเพื่อธุรกิจเข้ามาในประเทศอย่างเป็นปกติแล้ว ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำหรับบริษัท เนื่องจากมีคอนโดฯ ที่เป็นที่สนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากทำเลที่ตั้งที่โดดเด่น เราจึงเชื่อมั่นว่าดีมานด์ที่กลับมาจะส่งผลให้แนวโน้มอุตสาหกรรมกลับมาดีขึ้น และเป็นอีกเหตุผลที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง” นายสุพล กล่าว

 

Reference: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น