S ประกาศรุกหนักแนวราบ เล็งเปิดปีนี้ 6 โครงการ มูลค่า 1.3 หมื่นล้าน

27 Jan 2023 205 0

 

           “สิงห์ เอสเตท” ส่งสัญญาณผลงานปี 66 โตอย่างมีนัย หลังรุกพัฒนาโครงการแนวราบ ประกาศแผนปีนี้เปิดแนวราบ 6 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท ล่าสุดเปิดขาย “โครงการ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ 32” มูลค่า 2,900 ล้านบาท อวดยอดขายแล้ว 95% เดินหน้าทยอยส่งมอบ

          นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของธุรกิจพัฒนาที่พักอาศัยในปี 2566 จะเติบโตอย่างมีนัย จากปี 2562 ที่มีรายได้จากธุรกิจพัฒนาที่พักอาศัย 7,385 ล้านบาท จากการรุกขยายโครงการประเภทแนวราบมากขึ้น ขณะที่ในปี 2562 มีแต่โครงการประเภทคอนโดมิเนียม โดยสัดส่วนรายได้ของกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่พักอาศัยในปี 2566 จะมาจากโครงการแนวราบประมาณ 70% และโครงการคอนโดมิเนียม 30%

          โดยในปี 2566 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการประเภทแนวราบทั้งหมด และจะเป็นโครงการที่สร้างเสร็จก่อนขายเป็นหลัก ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทจะขยายไปสู่เซกเมนต์ใหม่ ๆ ที่ระดับราคา 10-20 ล้านบาท ซึ่งยังคงเจาะกลุ่มระดับ Luxury ขึ้นไป ทั้งในโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก, โซนกรุงเทพฯ ตะวันตก และในโซน CBD ของกรุงเทพฯ

          ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้เปิดขายโครงการ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ 32 เป็นบ้านแนวราบระดับ Super Luxury มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งปัจจุบันมียอดจองไปแล้ว 95% จำนวน 26 ยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 2,775 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดโอนกรรมสิทธิ์แล้วกว่า 830 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนได้ถึงความเชื่อมั่น และความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อบ้านจาก “สิงห์ เอสเตท”

          สำหรับโครงการ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ 32 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นระดับ Super Luxury มีจำนวน 28 ยูนิต บนพื้นที่ 23 ไร่ ในระดับราคาขายตั้งแต่ 65-180 ล้านบาท โดยโครงการพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “True Legacy Lives Now” ซึ่งให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยแบบครอบครัว หรือ Family-Oriented เน้นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของสมาชิกทุกคนภายในบ้าน

          นอกจากนี้ ด้านหน้าโครงการ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ 32 บริษัทยังได้พัฒนาโครงการโฮมออฟฟิศ 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 4 ยูนิต ภายใต้ชื่อ SENTRE (เซนท์เทอร์) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Ture Success Begin Here” ขนาดที่ดินเริ่มต้น 42 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 347 ตารางวา จอดรถได้ถึง 4 คัน สามารถปรับเปลี่ยน Function ให้ตอบโจทย์การทำธุรกิจบนทำเลใจกลางเมือง ในราคาเริ่มต้น 21.9 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้ว 2 ยูนิต

          นายณัฐวุติ กล่าวอีกว่า การทำตลาดในกลุ่ม Super Luxury นั้น เป็นผลต่อเนื่องจากการพัฒนาโครงการระดับ Ultra Luxury อย่างโครงการสันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส ที่ปิดการขายไปเมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งการพัฒนาโครงการของบริษัท นอกจากคุณภาพแล้ว ความเชื่อมั่นในแบรนด์ก็สำคัญมาก ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบ้านให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่หลากหลาย แต่ก็สร้างความสมดุล และลงตัวสำหรับการพักอาศัย เพื่อให้บ้านเปรียบเสมือนมรดกที่สามารถส่งต่อไปยังรุ่นสู่รุ่น

 

Reference: