PREB ลุยชิงงานหมื่นล้าน ปักธงรายได้อสังหาโต 20%

15 Feb 2023 218 0

         PREB กางแผน 5 ปี รายได้รวมยืนเหนือ 4.5 พันล้านบาท เดินหน้าประมูลงานรับเหมาปี 2566 มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท หวังมีโอกาสได้งานใหม่เติมพอร์ตไม่น้อยกว่า 30-40% อวดแบ็กล็อกหนา 6 พันล้านบาท คาดรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 50% ด้านธุรกิจอสังหาวางเป้ารายได้โต 20% กว่า 1,100 ล้านบาท และยอดขาย 1.3 พันล้านบาท เตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 1.5 พันล้านบาท

          นายวิโรจน์ เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายภายใน 5 ปีข้างหน้า (2566-2570) บริษัทจะมีรายได้รวมแตะที่ระดับไม่ต่ำกว่า 4,500 ล้านบาท โดยแรงขับเคลื่อนหลักๆ จะมาจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นทุกปี และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 2-3 ปีจากนี้ (2566-2568) จะสูงเทียบเท่ากับธุรกิจก่อสร้างที่เป็นธุรกิจหลัก ซึ่งมองว่าอุตสาหกรรมยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรง

          ส่วนภาพรวมธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ในปี 2566 มองว่าจะมีการเติบโตที่ทรงตัวใกล้เคียงเมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะการลงทุนโครงการต่างๆ อาจไม่สูงมากนักตามสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดี อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงราคาวัสดุก่อสร้างยังมีความผันผวนในระดับสูง โดยในปีนี้บริษัทมีความสนใจและมองหาโอกาสเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวมมากกว่า 10,000 ล้านบาท

          ลุ้นคว้างานใหม่

          โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 จนถึงปัจจุบัน บริษัทได้มีการเข้าร่วมเสนอราคางานโครงการใหม่โดยเฉพาะในส่วนของภาคเอกชนอย่าง ต่อเนื่อง ที่มีทั้งโครงการคอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมราว 4,000 ล้านบาท เบื้องต้นมีความคาดหวังว่าจะได้งานมาเติมพอร์ตประมาณ 30-40% เข้ามาเติมพอร์ตงานในมือเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าภายในช่วง 2-3 เดือนจากนี้จะทยอยได้ความชัดเจนทั้งหมด

          นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอทยอยส่งมอบ (Backlog) แล้วกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2566 ไม่น้อยกว่า 50% ที่เหลือจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องไปถึงปี 2568 อย่างไรก็ดี บริษัทวางเป้าหมายจะรักษาระดับ Backlog ในมือให้อยู่ที่เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท สำหรับความกังวลในปีนี้คือต้องให้การจับตาดูความชัดเจนของการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่จะมีผลทำให้ค่าแรงของคนงานที่มีทักษะความสามารถสูงขึ้นตาม รวมถึงราคาวัสดุที่มีความผันผวน

          ปั๊มยอด 1.3 พันล.

          ขณะที่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2566 นั้น บริษัทวางเป้ารายได้รวมไม่น้อยกว่า 20% หรือแตะที่ระดับ 1,100 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 800 ล้านบาท และวางเป้ายอดขายไว้ที่ 1,300 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 2 โครงการในช่วงไตรมาส 3/2566

          ขณะเดียวกันบริษัทยังมียอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) อยู่ในมืออีกประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งรอบการโอนกรรมสิทธิ์จะอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้ในส่วนของธุรกิจพัฒนาอสังหา ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

          อย่างไรก็ตามแผนการดำเนินงานในส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่อจากนี้ไป บริษัทจะยังคงเดินหน้าหาที่ดินแปลงใหม่เพื่อรองรับในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะขยายไปในทุกเซ็กเมนต์ทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และโฮมออฟฟิศ เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่พักอาศัยที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยในปี 2566 บริษัทวางงบลงทุนในส่วนนี้ไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท

Reference: