PFปั๊มรายได้รวมปีนี้1.8หมื่นล้าน เล็งเปิด 7 โครงการ 7.7 พันล้าน ลดหนี้ 1.1 หมื่นล้านใน 3 ปี

28 Feb 2024 195 0

         นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทวางเป้ารายได้รวมไว้ที่ 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จาก PF จะอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 9,000 ล้านบาท และรายได้จากบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND ที่ 6,000 ล้านบาท โดยจะมาจากโครงการแนวราบ 8,600 ล้านบาท, คอนโดมิเนียม 2,380 ล้านบาท, โครงการร่วมทุน 3,770 ล้านบาท และโรงแรม 3,250 ล้านบาท

         ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ทั้งหมดในปีนี้ และปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและการขายรวม 65 โครงการ จาก 23 แบรนด์ มีมูลค่าโครงการรวม 120,000 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดมีสินค้าเหลือขายรวมมูลค่า 57,043 ล้านบาท หรือประมาณ 8,146 ยูนิต

         ขณะที่ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ายอดขาย (Presale) ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายของ PF จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 9,000 ล้านบาท และเป็นยอดขายจาก GRAND อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท โดยในปี 2567 ทาง PF มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,700 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบทั้งหมด แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดรวม 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,290 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮมและอาคารพานิชย์รวม 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,410 ล้านบาท

       “ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะเติบโตกว่าปีก่อน จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยปัจจัยบวกจะมาจากโครงการขนาดใหญ่ของภาคเอกชน เช่น โครงการวัน แบ็งค็อก, โครงการดุสิต เซ็นทรัล ปาร์ค เป็นต้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นตลาด อีกทั้งในปีนี้รถไฟฟ้าเปิดบริการครบ 10 สาย จะสนับสนุนบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์โดยตรง นอกจากนี้ในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าจะมีการออกผังเมืองกรุงเทพฯ ฉบับใหม่ จะเป็นช่องทางสำหรับพัฒนาโครงการในพื้นที่ใหม่ ๆ ได้มากขึ้นด้วย”

        นายวงศกรณ์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมุ่งเน้นการจัดการเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ลดภาระหนี้ โดยตั้งเป้าลดภาระหนี้ลงรวม 11,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2567-2569) ซึ่ง ณ ในปี 2567 บริษัทจะลดหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (interest bearing debt to equity : IBD/E ratio) ให้อยู่ที่ 1 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.7 เท่า โดยตั้งเป้าลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของกลุ่มบริษัทลงไปอยู่ที่ 1 เท่า ภายในสิ้นปี 2567 โดยมีแผนลดภาระหนี้ของ PF ที่ 2,000 ล้านบาท และ GRAND ที่ 5,000 ล้านบาท รวมเป็น 7,000 ล้านบาท จากการขายที่ดินและขายการลงทุนในธุรกิจโรงแรม และใน 2 ปีข้างหน้า PF จะลดหนี้อีกปีละ 2,000 ล้านบาท จากการขายที่ดินและเงินคืนจากบริษัทร่วมทุน

       ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินแปลงใหญ่ที่อยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งที่ถนนรามอินทรา และถนนรัชดาภิเษก ซึ่งแต่ละแปลงมีมูลค่า 2,000 ล้านบาท และยังมีที่ดินขนาดกลางอีกหลายแปลงที่จะสามารถขายได้อีก นอกจากนี้ยังมีการเจรจาขายโรงแรมของ GRAND ด้วย โดยแต่ละโรงแรมมีมูลค่าสูงกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งมีผู้เข้ามาเสนอซื้อ 2-3 รายต่อโรง ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาขาย



 

 

Reference: