NWR จ่อคิวประมูลตุนพอร์ต หวังโปรเจ็กต์รัฐ-เอกชนดัน
NWR แนวโน้ม ปี 2566 ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างยังขยายตัวเฉลี่ยปีละ 4% หวังงาน ภาครัฐ-ภาคเอกชน เติบโตมากขึ้น เตรียมแผนประมูลงานเพิ่มราว 14,000 ล้านบาท จากงานในมือปัจจุบัน 34,000 ล้านบาท และมีงานที่อยู่ระหว่างติดตาม ที่ราว 21,508 ล้านบาท
นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จากัด (มหาชน) หรือ NWR เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มของปี 2566 ยังมีความกังวลกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกรวมถึงเศรษฐกิจในประเทศไทย ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอก เนื่องจากยังมีความผันผวนอยู่ ทั้งราคาวัตถุดิบ อาทิ ราคาคอนกรีต ราคาน้ำมัน รวมถึงการจับจ่ายทางด้านเอกชน และภาครัฐซึ่งยังมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง แต่ปัจจุบัน ภาคการท่องเที่ยวในประเทศเริ่มปรับตัว ดีขึ้น ทำให้บริษัทเชื่อว่า งานภาครัฐ ภาคเอกชน มีโอกาสที่เติบโตได้ดีมากขึ้น
ขณะที่แนวโน้มปี 2566-2568 ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างยังขยายตัว ได้เฉลี่ยปีละ 4% ของอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี มาจากแผนการพัฒนาโครงการพื้นฐานใหม่ๆ ของภาครัฐ และโครงการที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ของภาคเอกชนที่จะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป
สาหรับปี 2565 ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างมีแนวโน้มขยายตัวที่ 4% เมื่อ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ระดับ 1.42 ล้านล้านบาท จากโครงการขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐที่ขยายตัว 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 853,000 ล้านบาท รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของภาคเอกชนที่ขยายตัว 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ระดับ 567,000 ล้านบาท
โครงการลงทุนปี 66
สำหรับโครงการการลงทุนภาครัฐ ในปี 2566 อยู่ระหว่างการเร่งรัดการลงทุนและเร่งดำเนินการโครงการลงทุน ตามที่ได้รับอนุมัติประมาณ 10 โครงการ คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายงบลงทุนทั้งสิ้น 83,945.12 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 59.5 ของประมาณการเบิกจ่ายงบลงทุน สำคัญรวมทั้งหมดกว่า 65 โครงการ อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง, โครงการ ก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย- เชียงราย, โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน เป็นต้น
นอกจากนี้ในปี 2566 ยังมีแผนการลงทุนจากทางการพิเศษแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดพัฒนาสายใหม่โครงการ 5 โครงการ วงเงินลงทุนตามแผนรวมทั้งสิ้น 1.1 แสนล้านบาท
ซึ่งบริษัทคาดว่าในปี 2566 จะมีงานเข้ามาเพิ่มใหม่อีกราว 14,000 ล้านบาท โดยในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาบริษัทได้ประมูลงานใหม่มูลค่าราว 11,010 ล้านบาท เป็นงาน อุโมงค์และงานอาคารส่วนใหญ่ ขณะที่ งานในมือ (Backlog) ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ 34,000 ล้านบาท
และยังมีงานที่อยู่ระหว่างติดตาม ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ 21,508 ล้านบาท แบ่งออกเป็นงานที่มีมูลค่าตั้ง 2,000 ล้านบาท และเป็นงานภาครัฐจำนวน 31% เอกชนจำนวน 41% ได้งานสังฆทานภาครัฐจำนวน 28%
โชว์พอร์ตบ.ย่อย
สาหรับผลการดาเนินงานของบริษัทย่อย บริษัท แอ็ดวานซ์ พรีแฟบ จากัด ได้เพิ่มกาลังการผลิตเพื่อรองรับโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการรถไฟฟ้าทางคู่และโครงการ Box Culvert สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น, บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาลงทุนเพิ่มเติม โดยได้เริ่มก่อสร้างโครงการ BaraneeBliss ที่รังสิตคลอง 3 แล้ว
ส่วนบริษัท เทสท์เมคเคอร์ จำกัด มีการพิจารณารีแบรนด์ ร้านใบบัว ที่ ซอยลาซาลเป็นร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนเพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น, บริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ UBA ได้เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายหุ้น สามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 170 ล้านหุ้น ในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 เป็นต้น
Reference: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น