DOHOME ครึ่งหลังฟื้นตัวแรง งบประมาณรัฐหนุนยอดขาย

22 Apr 2024 323 0

 

   



    นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยว่า ปี 2567 รายได้มีโอกาสเติบโตแบบทรงตัว หากไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามากระทบ โดยมีปัจจัยบวกจากภาคการก่อสร้างเริ่มฟื้นตัว กำลังซื้อปรับตัวดีขึ้น บริษัทคาดหวังกำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ในระดับที่ราว 16-17% จากความสามารถในการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

   ประกอบกับหากปัจจัยทางเศรษฐกิจของประเทศจีนกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2567 ก็จะเป็นอานิสงส์เชิงบวกต่อบริษัทเช่นกัน สำหรับงานโครงการภาคเอกชน ในปัจจุบันยังคงรอความชัดเจนของการลงทุนโครงการของภาครัฐ ซึ่ง ดูโฮมมีสัดส่วนลูกค้ารับเหมาโครงการรัฐค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงคาดหวังครึ่งหลังจะมีทิศทางที่ดีจากการมีเงินงบประมาณแผ่นดินออกมาใช้จ่ายอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

    ดูโฮม แฟล็กชิป สโตร์ แห่งแรก

    ล่าสุด บริษัทเปิดสาขาใหม่ ดูโฮม สาขาบางพูน สาขาที่ 24 ตั้งอยู่บน ถ.รังสิต-ปทุมธานี นับเป็นแฟล็กชิป สโตร์ แห่งแรกในรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นสาขาต้นแบบ ที่ดูโฮมตั้งใจปรับโฉมใหม่ให้มีความทันสมัย ทั้งรูปแบบร้านด้านหน้า การตกแต่งภายในร้าน รวมไปถึง การเพิ่มโซน DOHOME 360 o Solutions นวัตกรรมเพื่อบ้านทุกมิติ รวมสินค้าเพื่อบ้านยุคใหม่ แต่ยังคงคอนซ็ปต์ ครบ ถูก ดี เช่นเดิม

    อีกทั้งบริษัทมีการจัดงานเปิดดูโฮม สาขาบางพูนแห่งนี้ บริษัทยังตอบรับนโยบายกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการจัดโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษเพื่อช่วยเหลือประชาชน พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรม ผู้รับเหมา ช่าง ร้านค้าช่วง และลูกค้าทั่วไป ในย่านกรุงเทพฯตอนเหนือ ให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น พร้อมจัดโปรโมชั่นจัดหนักตลอดเดือน เริ่มตั้งแต่ 23 มีนาคม-30 เมษายน 2567

    ณ สิ้น ไตรมาสที่ 1/2567 บริษัทมีสาขาทั้งหมด 36 แห่ง แบ่งเป็นดูโฮม 24 สาขา ดูโฮมทูโก 11 สาขา สำหรับการขยายสาขาปีนี้คาดว่าจะไม่มีการขยายสาขาดูโฮมขนาดใหญ่ และคาดว่าจะกลับมาเปิดได้ในช่วงไตรมาสที่ 1/2568 อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้าขยายสาขา ดูโฮม ทูโก 8 สาขา ในปี 2567

    เพิ่มกำไรปี 68

    บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ PI ระบุว่า DOHOME ผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 1/2567 ยังคงดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ ผ่านมา QoQ เป็น 251 ล้านบาท ลดลง 3% YoY และเพิ่มขึ้น 28% QoQ จากคาดการณ์เติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ลดลง 10% จากงานก่อสร้างที่ชะลอตัว และต้นทุนการขยายสาขาในรอบ 12 เดือนก่อนหน้าที่ผ่านมา แม้ว่าอัตรากำไร ขั้นต้นฟื้นตัวกลับสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส ที่ 17.8% แต่มองว่า แนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมจะฟื้นตัวในช่วงสิ้นปีหลังด้านยอดขายสาขาเดิมยังคงติดลบในช่วงของครึ่งปีแรกของปี 2567 จากการชะลองานก่อสร้าง และได้รับประโยชน์จากมาตรการ Easy e-Receipt ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากลูกค้า ส่วนใหญ่ได้ประโยชน์จากมาตรการค่อนข้างน้อย และมองว่าราคาเหล็กมีความเสี่ยงขาลงจำกัด จากสัญญาณการฟื้นตัวของภาคผลิตในจีน ซึ่งเชื่อว่าอสังหาในประเทศจีนจะทยอยฟื้นตัว ขึ้นมาเป็นระยะทำให้อัตรากำไรของกลุ่มสินค้าเหล็ก และวัสดุก่อสร้างจะอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้

    โดยยังคงประมาณการกำไรปี 2567 อยู่ที่ 975 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% YoY แต่ปรับเพิ่มประมาณการกำไรในปี 2568 ขึ้น 5% เป็น 1.38 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% YoY เพื่อสะท้อนแนวโน้ม งานก่อสร้างที่จะเร่งตัวขึ้นหลังจากการเบิกจ่ายงบประมาณ ปรับคำแนะนำเป็น ซื้อ จากแรงหนุนงบลงทุนภาครัฐ ที่ราคาพื้นฐาน 13.50 บาท

 

Reference: