AP-ORI-SPALI รับอานิสงส์ ต่างชาติแห่ซื้ออสังหาไทย

21 Mar 2023 270 0

 

           SPALI กำลังซื้อต่างชาติฟื้น เร่งพัฒนาโครงการรองรับ ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้เริ่มเห็นแรงซื้ออสังหาของชาวต่างชาติในจังหวัดเป้าหมาย-หัวเมืองท่องเที่ยว เชียงใหม่, ภูเก็ต, พัทยา, และศรีราชาพร้อมรุกเข้ากรุงเทพฯ-ปริมณฑลตั้งแต่ไตรมาส 2/2566 เป็นต้นไป แนะหุ้นเด่นเฉพาะตัว AP-ORI-SPALI รับอานิสงส์

          นายไตรเตชะ  ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)  หรือ SPALI เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายทั้งปี 2566 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากกำลังซื้อในประเทศ และความต้องการที่อยู่อาศัยในไทยของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการย้ายเข้ามาอยู่อาศัย และกลุ่มที่ส่งบุตร-หลานเข้ามาศึกษา

          ทั้งนี้ จากการที่บริษัทติดตามผลกระทบ อันอาจเกิดขึ้นหลังจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ไม่ต่ออายุการผ่อนคลายมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV) ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อสิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าส่งผลกดดันการพิจารณา-ตัดสินใจซื้อบ้านของประชาชนในกรอบจำกัด รวมถึงภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นก็ไม่ส่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงินในกรอบจำกัด

          “จากความกังวลว่ากำลังซื้อในประเทศจะถูกกดดันจากมาตรการ LTV และสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ แต่ปรากฏว่าทั้ง 2 ปัจจัยนี้กระทบในกรอบจำกัด มากๆ รวมถึงเริ่มเห็นแรงซื้อจากต่างชาติที่ต้องการเข้ามาอาศัยอยู่ในไทยระยะยาวที่ชัดเจนตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทยังคงแผนการเปิดโครงการใหม่-แผนการตลาด ฯลฯ ทั้งปี 2566 อย่างต่อเนื่อง”

          ต่างชาติดันยอดขายโต นายสรพงษ์ จักรธีรังกูร ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นปัจจัยหนุนให้เริ่มเห็นชาวต่างชาติตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นเป้าหมาย (Destination) การเดินทางท่องเที่ยว หรือจังหวัดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักของต่างชาติอาทิ เชียงใหม่, ภูเก็ต, พัทยา, และ ศรีราชา ฯลฯ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

          พร้อมกันนี้คาดการณ์ว่า การที่จีนยังคงเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์ (Zero-COVID) อย่างต่อเนื่อง จะยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนยอดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลทั้งปี 2566 อย่างมีนัยสำคัญ โดยจะเป็นปัจจัยหนุนให้ยอดขยายโครงการของผู้ประกอบการเร่งตัวขึ้นทุกไตรมาสที่เหลือของปี 2566 นี้

          กำลังซื้อกลับมา ”กำลังซื้อของต่างชาติที่กลับเข้ามาในปีนี้จะเป็นการซื้อเพื่อลงทุน และเพื่ออยู่อาศัยเป็นหลักซึ่งก็จะมีความสนใจ แตกต่างกันอย่างจีนก็สนใจเชียงใหม่เพราะใกล้ ซึ่ง LH ถือเป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาอสังหาที่เชียงใหม่เป็นรายแรกๆ ขณะที่รัสเซีย, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน ก็มีความสนใจที่ภูเก็ต ซึ่ง SPALI เป็นผู้เข้าไปลงทุนเป็นบริษัทแรก และมีที่ดินกระจายอยู่ในหลายทำเลจึงค่อนข้างได้เปรียบผู้ประกอบการ รายอื่น ส่วนศรีราชา พัทยาเป็นทำเลที่มีผู้ประกอบการหลากหลายทั้งบจ. และผู้ประกอบการท้องถิ่น”

          อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังคงเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในประเทศเป็นหลัก โดยกำลังซื้อของนักลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนเพียงราว 10% ของพอร์ตโครงการที่ผู้ประกอบการพัฒนาขึ้น และทั้ง 10% นั้นจะอยู่ในกลุ่มคอนโดมิเนียม สะท้อนจากแผนการเปิดโครงการใหม่ทั้งปี 2566 ของ 12 บริษัทอสังหาที่มีบทวิเคราะห์ที่ราว 4.28 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.7% YoY พร้อมตั้งเป้ายอดขายรวมทั้งปี 2566 ที่ 3.46 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8% YoY

          ชี้เป้า AP-ORI-SPAL เบื้องต้นคาดการณ์ยอดขาย-รายได้รวมงวดไตรมาส 1/2566 กลุ่มอสังหาไตรมาส 1/2566 มีแนวโน้อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 4/2565 (QoQ) เนื่องจากงวดไตรมาส 4/2565 ถือเป็นช่วงที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะถึง 2 ปัจจัยคือ 1.ใกล้สิ้นสุดการผ่อนคลายมาตรการ LTV ของธปท. และ 2.แรงซื้อของต่างชาติที่เริ่มเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ แต่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา (YoY) หนุนจากแรงซื้อของต่างชาติที่ยังคงแข็งแกร่ง และผลกระทบจากมาตรการ LTV ที่ค่อนข้างจำกัด

          จึงคงคำแนะนำ “ทยอยซื้อ” หุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว อาทิ AP ซึ่งมีความสามารถในการพัฒนาโครงการในทำเลศักยภาพและสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดจากผู้ประกอบการรายอื่นได้อย่างต่อเนื่อง ราคาเหมาะสมที่ 13.80 บาท, ORI ซึ่งสามารถพัฒนาโครงการทั้งแนวราบคอนโดมิเนียมแนวใหม่เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้อย่างต่อเนื่อง ราคาเหมาะสมที่ 14.80 บาท และ SPALI ซึ่งมี แผนการเปิดโครงการเชิงรุกในหลากหลายทำเล หนุนศักยภาพการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง ราคาเหมาะสมที่ 27 บาท



 

 

Reference: