DOHOME มีแรงหนุน Q4 เยียวยาน้ำท่วม-ซ่อมบ้าน
DOHOME ฟุ้ง SSSG ปัจจุบันอยู่ที่ระดับเฉลี่ยกว่า 8-10% ไม่กังวลสาขาอุบลราชธานี น้ำซัด กำแพงพัง ทำประกันป้องกันความเสี่ยง ไว้ครอบคลุมแล้ว คาดยอดขายไตรมาส 4/2565 พีคสุด มองมีส่วนรับอานิสงส์ภาครัฐให้ความช่วยเหลือและเยียวยาน้ำท่วม วงเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท
นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2565 เชื่อว่าจะมีการเติบโตที่ค่อนข้างโดดเด่น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กำลังซื้อ และการท่องเที่ยว นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถขยับขึ้นราคาขายสินค้าบางรายการที่ชะลอตัวไปก่อนหน้านี้ได้สอดคล้องกับต้นทุนที่นำเข้ามา ขณะเดียวกันค่าระวางเรือกลับมาย่อตัวลง และไม่ผันผวนรุนแรงเหมือนที่ผ่านมาในไตรมาส 2/2565 ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีมากขึ้น
อานิสงส์ซ่อมบำรุง
จึงคาดว่าจะช่วยสนับสนุนอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้กลับมาอยู่ในระดับที่เป็นปกติได้ และดีขึ้นอย่างชัดเจน ในไตรมาส 4/2565 ขณะเดียวกันด้วย สถานการณ์อุทกภัยที่เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงภาครัฐได้ให้ความ ช่วยเหลือและเยียวยาน้ำท่วม โดยเตรียมวงเงินไว้รองรับประมาณ 2 หมื่นล้านบาท นั้นบริษัทก็คาดว่าจะได้เป็นหนึ่งในส่วนที่ได้รับอานิสงส์จากการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
สำหรับภาพรวมยอดขายในช่วงเดือนกรกฎาคม-เดือนกันยายน 2565 ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง แบบตัวเลขสองหลัก หรือประมาณกว่า 20% จากไตรมาสก่อนหน้า ยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) อยู่ที่ระดับเฉลี่ยกว่า 8-10% ซึ่งยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย ที่วางไว้ แม้ว่าตามปกติของไตรมาส 3 ทุกปีจะเป็นโลว์ซีซันของธุรกิจ ตามปัจจัย ฤดูกาลหน้าฝน ต้องยอมรับว่ามีผลกระทบต่อกำลังซื้ออยู่บ้าง แต่ก็มองว่ายังอยู่ในประมาณการที่คาดไว้ และคาดว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ยอดขายจะกลับมาเติบโตได้ตามปกติ
กรณีที่สาขาอุบลราชธานี ได้รับผลกระทบอุทกภัยนั้น ตลอดระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยระดับน้ำสูงขึ้น อย่างต่อเนื่องและกระแสน้ำเชี่ยวจนทำให้ คันกั้นน้ำพังเสียหายบางจุด ส่งผลให้น้ำไหลซึมเข้าไปในบริเวณลานจอดรถและโซนจำหน่ายสินค้า ซึ่งคาดว่าจะมีผลกระทบต่อรายได้สาขาอุบลราชธานี แต่หลังจากน้ำลด รายได้น่าจะกลับมาเป็นปกติและเติบโตต่อได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้
ทั้งนี้ ทางบริษัทได้ทำประกันการเสี่ยงภัยทุกชนิด (All Risk Insurance) คุ้มครองความเสียหายไว้ทั้งหมดแล้ว สำหรับในส่วนของโซนคลังสินค้าที่มีระดับสูงกว่าไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
ราคาเหล็กกดมาร์จิ้น
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทางฝ่ายมีมุมมอง Negative ต่อแนวโน้มกำไรสุทธิ ในไตรมาส 3/2565 ของ DOHOME คาดทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เข้า SET (3/2562) เหลือ 55 ล้านบาท (ลดลง 84% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และหดตัว 83% จากไตรมาสก่อน) กดดันจากราคาขายสินค้าเหล็กที่ปรับลงแรงช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ไม่สอดคล้องกับบริษัทยังมีสต๊อกเก่า ที่ต้นทุนแพง ฉุด GPM สินค้าเหล็กจะปรับลงแรง แม้สถานการณ์มาร์จิ้นเหล็กตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3/2565 จะดีขึ้น
แต่ด้วยราคาเหล็กโลกที่ยังเป็นขาลง ทางฝ่ายจึงคาดมาร์จิ้นเหล็กจะยังไม่กลับสู่ระดับปกติในระยะอันใกล้ ดังนั้น ทางฝ่ายจึงปรับกำไรปกติปี 2565- 2567 ลงเฉลี่ย -25% ต่อปี สะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอกว่าเดิม โดยกำไรปกติของปี 2565 ใหม่จะเหลือ 1.02 พันล้านบาท หดตัว -44% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน อ่อนแอสุดใน ผู้ประกอบการตกแต่งบ้าน (HMPRO+ 19%, ILM +33% และ GLOBAL+ 3%) จึงประเมินยังไม่ใช่จังหวะเข้าลงทุนมี ราคาเป้าหมายปี 2566 ใหม่ที่ 14.5 บาท
Reference: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น