ALL ลดอสังหาฯแตก3ธุรกิจ AMC-บริหารหนี้-คาร์บอนเครดิต

12 May 2022 418 0

          “ออลล์ อินสไปร์” ประกาศปรับโครงสร้าง ภายใต้แนวคิด “All New Era” ลุยปฏิรูปธุรกิจก้าวสู่ “โฮลดิ้ง คอมพานี” รับกระแส Mega Trend เติบโตอย่างก้าวกระโดด พลิกฟื้นธุรกิจ พร้อมดินแตกไลน์ธุรกิจใหม่ 3 ธุรกิจ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ บริหารหนี้สิน และ คาร์บอนเครดิต หวังมาร์เกตแคป 30,0ล้านบาท ภายใน 3 ปี วางเป้ารับรู้รายได้ปีนี้ 4,000 ล้านบาท

          นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจต่างๆ ต้องเผชิญกับปัจจัยลบรอบด้าน การปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อประคองธุรกิจให้สามารถดำเนินงานต่อไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจหลักเพียงอย่างเดียว บริษัทฯ จึงได้ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ ภายใต้แนวคิด “All New Era” ออลล์ อินสไปร์ ยุคใหม่ ที่ไม่หยุดแค่อสังหาริมทรัพย์อีกต่อไป มองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อการพลิกฟื้นธุรกิจให้มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว นำพาองค์กรไปสู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดด รองรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมตั้งเป้าเทิร์นอะราวนด์ เตรียมก้าวสู่ “โฮลดิ้ง คอมพานี” เพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง

          ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวและให้บรรลุเป้าหมาย บริษัทได้แตกไลน์ 3 ธุรกิจใหม่ ประกอบด้วย 1. ธุรกิจบริหารสินทรัพย์  Assets Management (AMC) รูปแบบการดำเนินงานคือ การจัดตั้งบริษัทใหม่พร้อมจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงการควบรวมกิจการและพร้อมเข้าประมูลกับสถาบันการเงิน 2. ธุรกิจบริหารหนี้สิน Debt Management เป็นการเข้าซื้อหนี้เสียมาบริหาร ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ อาทิ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต หรือหนี้อื่นๆ และมีแผนร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ และ 3. ธุรกิจคาร์บอนเครดิต Carbon Credits ได้มีการร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก โดยรูปแบบการดำเนินธุรกิจ One Stop Service ซื้อ ขาย พัฒนา คาร์บอนเครดิต ผ่านบล็อกเชน รายแรกของประเทศไทย

          ”บริษัทจะให้น้ำหนักในการลงทุนธุรกิจในปี 65 นี้แบ่ง ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ มีสัดส่วน 30% ธุรกิจบริหารหนี้สิน มีสัดส่วน 30% ธุรกิคาร์บอนเครดิต มีสัดส่วน 30% และ ธุรกิอสังหาฯ 10% โดยคาดว่าภายใน3ปีจากนี้บริษัทจะมีมาร์เกตแคป 30,000 ล้านบาท”

          ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจอสังหาฯ นั้น จะยังไม่มีการลงทุนโครงการใหม่แต่จะพยายามระบายสินค้าในสต๊อกที่มีอยู่ 5,000 - 6,000 ล้านบาทออกไปให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างก็จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จและส่งมอบให้กับลูกค้า ส่วนแลนด์แบงก์ที่มีการซื้อสะสมไว้ จะยังไม่มีการนำมาพัฒนาโครงการใหม่ อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมี รายได้รับรู้จากการส่งมอบบ้านและอาคารชุด รวมถึงรายได้จากธุรกิจใหม่อยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท

Reference: