ฟันธงสารพัดปัจจัยบวกดัน อีอีซี บานฉ่ำ
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดเผยว่า กรมได้คาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ใน 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ปีนี้ว่าจะอยู่ที่ 6,500-6,800 ราย ใกล้เคียงกับยอดธุรกิจจัดตั้งใหม่ในอีอีซีปีที่ผ่านมาที่มี 6,698 ราย จากปัจจัยสนับสนุนคือภาคการส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัว และปีที่ผ่านมาการส่งออกมีมูลค่า 8.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2563 และเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงเพราะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการลดอัดฉีดสภาพคล่องในเศรษฐกิจ (คิวอี) จะสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนได้มากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับการขับเคลื่อนแผนการลงทุนระยะที่ 2 ของอีอีซีเช่นรถไฟความเร็วสูง และท่าเรือมาบตาพุด และแหลมฉบัง ระยะที่ 3 แต่ยังต้องติดตามโควิด-19 ในประเทศที่ยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการทั้งในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศ
”การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในอีอีซี ปีที่ผ่านมามีจำนวน 6,698 ราย เพิ่มขึ้น 9% เทียบกับปี 2563 ที่มี 6,104 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 19,153 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มี 17,533 ล้านบาท โดยจังหวัดชลบุรีจัดตั้งธุรกิจใหม่มากที่สุด 4,659 ราย ธุรกิจตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ 891 ราย เพิ่ม 13% ทุนจดทะเบียน 3,461 ล้านบาท เพิ่ม 18%, ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 609 ราย เพิ่ม 9% ทุน 1,376 ล้านบาท เพิ่ม 7% และธุรกิจขนส่ง ขนถ่ายสินค้า รวมถึงผู้โดยสาร 279 ราย เพิ่ม 4% ทุน 378 ล้านบาทเพิ่ม 1%”
ทั้งนี้ พื้นที่ 3 จังหวัดในอีอีซีมีนิติบุคคลที่ยังคงอยู่ ณ วันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 76,142 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 1.51 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นชลบุรี 55,140 ราย ระยอง 14,653 ราย ฉะเชิงเทรา 6,349 รายส่วนใหญ่เป็นธุรกิจบริการ การขายส่งขายปลีก การผลิต เป็นต้น
Reference: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ