คลังช่วยประชาชนแก้หนี้นอกระบบ

06 Nov 2020 893 0

          นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังคงดำเนินการร่วมกับหน่วยงานแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องได้แก่การลดภาระหนี้นอกระบบ โดยการไกล่เกลี่ยการเพิ่มศักยภาพลูกหนี้นอกระบบ และการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบโดยองค์กรการเงินชุมชน รวมถึงการดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมายซึ่งนับตั้งแต่เดือน ต.ค.59 จนถึงสิ้นเดือน ก.ย.63 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมายจำนวนสะสม 7,476 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค.63 จำนวน 121 ราย

          ทั้งนี้ ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารและรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ที่เปิดดำเนินการได้ทางเว็บไซต์ www.1359.go.th และสามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบที่ผิดกฎหมายได้โดยตรงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1599 และศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร.0-2255-1898

          นายพรชัย ยังกล่าวถึงภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) ณ สิ้นเดือน ก.ย.63 ว่า มีผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจและเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 858 ราย ใน 72 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 508 ราย รองลงมาคือภาคกลาง 134 ราย ภาคเหนือ 114 ราย ภาคตะวันออก 60 ราย และภาคใต้ 42 ราย ทั้งนี้ นับตั้งแต่ ธ.ค.59 ที่ได้เปิดให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์จนถึงสิ้นเดือน ส.ค.63 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้ประชาชนรายย่อยไปแล้ว ทั้งสิ้น 328,300 บัญชี รวมวงเงิน 8,250.38 ล้านบาท เฉลี่ย 25,130.61 บาทต่อบัญชี จังหวัดที่มีผู้เปิดมากที่สุด ได้แก่ นครราชสีมา ตามด้วยกรุงเทพมหานคร และขอนแก่น

          ส่วนสถานะสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้น ส.ค.63 มียอดสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 149,860 บัญชี คิดเป็นเงิน 3,512.16 ล้านบาท มีสินเชื่อค้างชำระ 1-3 เดือน ทั้งสิ้น 20,246 บัญชี คิดเป็นเงินสะสมรวม 523.76 ล้านบาท หรือ 14.91% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม และมีสินเชื่อค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน (เอ็นพีแอล) สะสมรวม 23,920 บัญชี คิดเป็นเงินสะสม 569.01 ล้านบาท หรือ 16.20% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม ซึ่งมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับยอดหนี้เอ็นพีแอลของเดือน ก.ค.63 ที่คิดเป็น 16.60%

Reference: