แบงก์ ผุดระบบช่วยลูกหนี้ออนไลน์
ยึดรูปแบบ “เราไม่ทิ้งกัน” แก้คอลเซ็นเตอร์ทะลัก 2 เท่า
“ชมรมธุรกิจบัตรเครดิต” เผยแบงก์-นอนแบงก์ เตรียมสร้างระบบ ลงทะเบียนออนไลน์ คล้าย “โครงการ เราไม่ทิ้งกัน” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับ ผลกระทบจากโควิด-19 ได้ทันท่วงที หลังยอดโทรผ่าน “คอลเซ็นเตอร์” พุ่งกว่า 2 เท่า ด้าน “ไทยพาณิชย์” เร่งเดินหน้า ช่วยลูกค้าตั้งแต่งวดชำระสิ้นมี.ค.นี้
นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต-สมาคมธนาคารไทย และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารและผู้ให้บริการทางการเงิน ที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นอนแบงก์) อยู่ระหว่างจัดทำระบบการลงทะเบียนออนไลน์ คล้ายการลงทะเบียนโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” ผ่านเว็บไซต์ของแต่ละแบงก์ เพื่อเปิดให้ลูกหนี้ที่เดือดร้อน ต้องการ ความช่วยเหลือจากแบงก์ สามารถเข้ามา กรอกข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ได้
การเปิดระบบดังกล่าว เพื่อเพิ่ม ช่องทางการรับเรื่องจากลูกค้า และลดภาระการติดต่อผ่านคอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร ซึ่งเชื่อว่าการเปิดให้ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ จะช่วยเหลือลูกหนี้แต่ละแบงก์ได้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ โดยระบบนี้จะคัดกรองและให้การช่วยเหลือลูกหนี้อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบชัดเจน เช่นกลุ่มธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว กลุ่มที่ ถูกเลิกจ้าง ผ่านโครงการพักหนี้ ยืดหนี้ เปลี่ยนสินเชื่อบัตรเครดิตเป็นสินเชื่อบุคคล เพื่อให้ภาระดอกเบี้ยลดลง เป็นต้น “ในระยะข้างหน้าแต่ละธนาคารจะมีกระบวนการให้ลงทะเบียน ซึ่งจะมีคำถาม ให้ลูกค้ากรอกคล้ายกันๆ หากเข้าข่าย ได้รับผลกระทบชัดเจน ไม่ต้องทำอะไร เพิ่มเติม แบงก์จะตอบกลับช่วยเหลือทันที แต่หากกลุ่มที่ยังคลุมเครือยังต้องแสดง หลักฐานการเงิน สามารถยื่นผ่านระบบออนไลน์ได้ รวมถึงช่องทางอื่นๆ ตามปกติ”
ในส่วนของกรุงศรีฯคาดว่าระบบนี้ จะแล้วเสร็จราวกลางเดือนเม.ย.นี้และ เปิดให้ลงทะเบียนได้ถึงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ ขณะที่การติดต่อผ่านช่องทางคอลเซ็นเตอร์ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากช่วงปกติ เช่น เดิมการติดต่อผ่านคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ ระดับวันละ 1 หมื่นสาย ปัจจุบันเพิ่มเป็น 3.5 หมื่นสายต่อวัน เช่นเดียวกับการทำ ธุรกรรมดิจิทัลเพิ่มขึ้นมาก ต้องติดตาม ใกล้ชิด หากธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการทำ ธุรกรรมในระยะข้างหน้า จากปัจจุบันรองรับได้ 2 เท่าของปริมาณการทำธุรกรรมสูงสุด
นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การช่วยเหลือลูกหนี้ในปัจจุบัน ธนาคารยืนยันว่าเมื่อ ลูกค้าเข้าโครงการพักชำระหนี้ ตามโครงการ 3 เดือนหรือ 6 เดือนหลังจากหมดโครงการ จะกลับมาชำระค่างวดเท่าเดิม ไม่มีการทบ วงเงินหนี้ที่ค้างชำระ โดยงวดที่พักชำระไว้จะถูกนำไปต่อท้ายสัญญาแทน
สำหรับลูกหนี้บัตร Speedy Cash หลังพักชำระหนี้ สามารถเลือกชำระ ทั้งหมด หรือ ชำระขั้นต่ำเหลือ 3% ได้แล้วแต่กรณี กรณีที่ลูกหนี้ขอเข้าโครงการ และอยู่ในการพิจารณา หากมีวันครบกำหนด ชำระใกล้จะถึงใน 1-2 วัน รวมถึง เลยวันครบกำหนดมาแล้ว ทางธนาคาร จะดำเนินการพักการชำระให้ลูกค้าที่ติดต่อขอความช่วยเหลือแบงก์เข้ามา
เช่น ลูกหนี้บัตรเครดิต ซึ่งการประกาศปรับยอดชำระขั้นต่ำมีผลในรอบบิล เดือนเม.ย. แต่หากลูกค้ามีกำลังในการ ชำระน้อยลง หรือไม่สามารถชำระได้ในช่วงนี้ แล้วขอความช่วยเหลือมา ทางธนาคาร จะปรับปรุง ยกเว้นการชำระงวดปัจจุบันให้ด้วย และพักการชำระออกไปอีก 3-6 รอบบิลตามที่ลูกค้าร้องขอ เป็นต้น เพื่อดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
Reference: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ