แบงก์ชาติ-ตลาดทุน-แบงก์ ระดมแผนตั้งโกดังเก็บหนี้
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ธปท. หน่วยงานด้านตลาดทุน สมาคมธนาคารไทย และกองทุนส่วนบุคคล (ไพรเวทฟันด์) อยู่ระหว่างเร่งหารือการจัดตั้งโกดังเก็บหนี้ (แวร์เฮ้าส์ซิ่ง) ว่าแนวทางจะเป็น อย่างไร ซึ่งเบื้องต้นมีอยู่หลากหลายแนวทาง แต่สิ่งสำคัญในตัวแวร์เฮ้าส์ซิ่ง คือต้องมีแนวทางการค้ำประกัน และทำอย่างไรให้ขายสินทรัพย์ลูกหนี้ออกไปในราคาที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ คาดจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้
ทั้งนี้แนวทางแวร์เฮ้าส์ซิ่งตามหลักสากล ลูกหนี้ที่เข้าเกณฑ์ไม่จำเป็นต้องเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอล แต่อาจเป็นลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจนปิดกิจการชั่วคราว โดยวิธีการคือจะนำลูกหนี้นี้มาเข้าในแวร์เฮ้าส์ซิ่งโดยต้องเป็นที่ยินยอมและตกลงกันระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ เหมือนกับนำมาแช่แข็งไว้ในตู้เย็นไว้ก่อนเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะสามารถเปิดตู้เย็นและนำออกมาจากการแช่แข็งได้ หรือเป็นรูปแบบเปิดโอกาสให้กลับมาซื้อกิจการคืนได้
สำหรับแวร์เฮ้าส์ซิ่งไม่จำเป็นต้องให้ ธปท.ทำ หรือเป็นหน่วยงานดูแลรับผิดชอบ แต่จะเป็นความร่วมมือกับหลายหน่วยงาน ซึ่งอาจเป็นหน่วยงานตลาดทุน หรืออาจเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ (เอเอ็มซี) เข้ามารับผิดชอบดูแลได้ โดยรูปแบบจะเป็นนิติบุคคลหรือไม่ ยังต้องหารือในรายละเอียดอีกครั้ง และยังต้องหารือถึงแนวทางการระดมทุนเข้าแวร์เฮ้าส์ซิ่งว่าจะมาจากแหล่งเงินใดบ้าง
กรณีการขายลูกหนี้ที่ไม่ใช่เอ็นพีแอลเข้าแวร์เฮ้าส์ซิ่งของธนาคารทำได้หรือไม่ ว่า โดยปกติธนาคารสามารถขายลูกหนี้ที่ไม่ใช่ เอ็นพีแอลได้อยู่แล้ว หากได้รับความยินยอมจากลูกหนี้ แต่ปัจจุบันหากเป็นลูกหนี้ดี ธนาคารก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขายส่วนนี้ออกไป ขณะที่ข้อกังวลจากหลายฝ่ายว่าลูกหนี้ที่ขาย จะโดนกดราคาเหมือนตอนปี 40 หรือไม่นั้น การขายลูกหนี้ในครั้งนี้อาจมีความแตกต่าง เพราะตอนปี 40 ในขณะนั้นคือลูกหนี้เอ็นพีแอลไม่มีอำนาจต่อรอง แต่ครั้งนี้ลูกหนี้อาจต้องการพักชั่วคราวซึ่งต้องหากลไกที่จะทำให้ราคาที่ขายเป็นที่ยอมรับทั้งสองฝ่าย
Reference: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
