อาคม ไม่ขยายเพดานกู้

18 Nov 2020 578 0

          ลงนามสัญญากู้เงินเอดีบี 1.5 ล้านเหรียญฯ ภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท สู้โควิด-19 ‘อาคม’ยันกรอบวงเงินเพียงพอไม่จำเป็นต้องขยายเพื่อกู้เพิ่ม สั่ง สคร.เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปี‘64 วงเงิน 2.85 แสนล้านบาท ให้ถึง 95% เพื่อกระตุ้น ศก.

          นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการลงนามในสัญญาเงินกู้ COVID-19 Active Response and Expenditure Support Program วงเงิน 1,500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างกระทรวงการคลังและธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ว่าเป็นการดำเนินการภายใต้ พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อ

          แก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 หรือ พ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท โดยมีเงื่อนไขเงินกู้แบบผ่อนปรน นำไปสนับสนุนด้านงบประมาณให้แก่รัฐบาลของกลุ่มประเทศสมาชิกเพื่อดำเนินนโยบายและมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19

          “ขณะนี้วงเงินกู้ตาม พ.ร.ก.เงินกู้ฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ยังเพียงพอสำหรับช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้กับภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ และเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จึงยังไม่จำเป็นต้องขยายกรอบการกู้เพิ่ม” นายอาคมกล่าว

          นายอาคมกล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ปี 2564 หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงิน 2.85 แสนล้านบาท ตั้งเป้าหมายการใช้จ่าย 95% เพื่อเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจให้มากที่สุด โดยการขับเคลื่อนโครงการสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน เป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (พีพีพี) ระหว่างปี 2559-2563 วงเงิน 8.31 แสนล้านบาท และโครงการปี 2563 ที่อยู่ระหว่างการนำเสนอและเตรียมเสนอกับคณะกรรมการพีพีพี 2.47 แสนล้านบาท รวมเป็น 1.1 ล้านล้านบาท จำนวนดังกล่าวบางโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้างและบางส่วนอยู่ระหว่างนำเสนอหน่วยงานต้นสังกัด จึงได้ มอบหมายให้ สคร.ดูแลและติดตามเรื่องการเบิกจ่าย

          งบประมาณ โดยเฉพาะโครงการที่ได้รับอนุมัติและอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ให้ตรงกับแผนงานเพื่อไม่ให้เกิดการล่าช้าในการจ่ายงบประมาณ สำหรับโครงการพีพีพีขนาดใหญ่จะมีคณะกรรมการของนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ดูแล ส่วนงบลงทุนนั้นมีทั้งส่วนของรัฐบาลที่เป็นรัฐวิสาหกิจและโครงการพีพีพี

          ด้านนางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า สบน.จะกู้เงินเพิ่มจากสถาบันการเงินต่างประเทศอีกหรือไม่นั้น แนวทางนี้เป็นทางเลือกที่ สบน.ดูอยู่ตลอด เพราะการกู้เงินต่างประเทศมีทางเลือกดี ดอกเบี้ยและระยะเวลาการกู้เงินก็ค่อนข้างดี โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงินในนามรัฐบาลจากเอดีบี วงเงิน 1,500 ล้านเหรียญฯ โดยอัตราดอกเบี้ยการกู้ที่อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระหว่างธนาคารของตลาดลอนดอน ระยะ 6 เดือน บวกด้วยส่วนต่าง 0.05% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยของวงเงินกู้คงค้างทุก 6 เดือน คือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และวันที่ 15 สิงหาคม

Reference: