ส่งสัญญาณปรับขึ้นแน่นอน กนง.เสียงแตก 4 ต่อ 3 คงดอกเบี้ย 0.50%
กนง.มีมติ 4 ต่อ 3 ให้คงดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ไว้อีกรอบ พร้อมส่งสัญญาณ “ถอนคันเร่ง” จ่อขึ้นดอกเบี้ยนโยบายหลังเงินเฟ้อพุ่งพรวด เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นปรับขึ้นประมาณการปีนี้โต 3.3% จากเดิม 3.2% เฟ้อพุ่งขึ้นเป็น 6.2% จาก 4.9% หลังค่าครองชีพคนไทยเพิ่มขึ้น 850 บาทต่อเดือน
นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)แถลงผลการประชุม กนง.วันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี โดยกรรมการ 3 เสียง เห็นควรให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง และมีโอกาสฟื้นตัวดีกว่าที่ประเมินไว้โดยปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 65 ขึ้นเป็นขยายตัว 3.3% จาก 3.2% ในการประมาณการครั้งก่อนแต่ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในปีหน้าจากเดิมที่คาดไว้ 4.4% เหลือ 4.2%
”การปรับขึ้นประมาณการครั้งนี้เกิดจากแรงส่งของเศรษฐกิจไตรมาสแรกที่ออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะการใช้จ่ายและการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่ประเมินไว้เดิม จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันและการส่งผ่านต้นทุนที่มาก และนานกว่าคาดมองไปข้างหน้าจะเห็นได้จากอัตราเงินเฟ้อ เดือน พ.ค.ที่ปรับขึ้นสูงถึง 7.1% ส่งผลให้ ธปท.ปรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของปีนี้ขึ้น 6.2% จากเดิมคาดไว้ที่ 4.9% ขณะที่ปรับเพิ่มอัตราเงินเฟ้อปีหน้าเป็น 2.5% จาก 1.7% และมีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสูงกว่าคาด”
นายปิติกล่าวต่อว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องทำให้ กนง.มองว่า การดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากในระดับปัจจุบัน จะมีความจำเป็นลดลงอย่างไรก็ดี เพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจในระยะต่อไป จะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องตามคาดจึงคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมครั้งนี้ อย่างไรก็ตามในภาวะที่อัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นไปสูงมาก และส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนโดยเริ่มที่จะเห็นการกระจายเป็นวงกว้างของราคาสินค้า ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในหมวดอาหาร และพลังงานดังนั้นเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจปรับตัวขึ้นร้อนแรงเกินไปในปีหน้า ธปท.อาจจะต้องเริ่มถอนคันเร่งการผ่อนคลายการเงินเพื่อหยุดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ โดยหากจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะต้องดูระยะเวลาที่เหมาะสมและผลกระทบต่อประชาชนรวมทั้งการเยียวยากลุ่มเปราะบางด้วย
”ธปท.ได้มีการประเมินผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นต่อค่าครองชีพของประชาชนเทียบกับผลกระทบของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยพบว่า ตั้งแต่ต้นปีผลจากเงินเฟ้อสูงกระทบให้ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น 850 บาทต่อเดือน หรือ 3.6% ของค่าใช้จ่ายขณะที่ลองตั้งตุ๊กตาว่า หากขึ้นดอกเบี้ยไป 1% จะกระทบต่อค่าครองชีพ 120 บาทต่อเดือนหรือ 0.5% ของค่าใช้จ่ายต่ำกว่า 7-8 เท่า แต่ช่วยให้เงินเฟ้อไม่พุ่งสูงขึ้นได้เพราะในขณะนี้ เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและเราทำอะไรราคาน้ำมันไม่ได้”
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า กนง.คงมีความกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเชื่อว่าได้มีการประเมินสถานการณ์ทั้งในประเทศและนอกประเทศแล้ว เพราะหากอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่างกันเกินไปจะมีผลต่อการไหลออกของเงินทุนได้ ขณะเดียวกันก็ยังต้องดูการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยด้วย
Reference: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ