ธุรกิจจ่อเข้าพักทรัพย์พักหนี้
แบงก์ชาติ” แจงผู้ประกอบการจ่อเข้ามาตรการพักทรัพย์ พักหนี้หมื่นล้านบาท หลังธุรกิจยังอ่วมวิกฤติโควิด-19 ทั้งโรงแรม โรงพยาบาล สปา และโรงงาน ฟุ้งกดปุ่มปล่อยกู้สินเชื่อฟื้นฟูแล้ว 7.23 หมื่นล้านบาท อุ้มผู้ประกอบการ 2.36 หมื่นราย ด้าน LH Bank - เงินติดล้อ ลุยออกมาตรการพักหนี้ช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
นายอานุภาพ คูวินิชกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบ 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนา “เอสเอ็มอีไทยไปต่ออย่างไร ด้วยกลไก ความช่วยเหลือของ ธปท.-แบงก์ รัฐ” ว่า ความคืบหน้าของมาตร การทางการเงินเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจ ผ่านมาตร การสินเชื่อฟื้นฟู ได้มีการอนุมัติสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแล้ว 72,391.7 ล้านบาท โดยคิดเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับความช่วยเหลือ 23,687 ราย วงเงินอนุมัติเฉลี่ยอยู่ที่ 3.1 ล้านบาทต่อราย ซึ่งภาพรวมการอนุมัติสินเชื่อฟื้นฟูมีการกระจายตัวไปยังกลุ่มผู้ประกอบการเป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของขนาด ประเภทธุรกิจและภูมิภาค
ขณะที่ความคืบหน้ามาตร การพักทรัพย์ พักหนี้ ซึ่งเป็นมาตรการใหม่นั้น ปัจจุบันมียอด อนุมัติการเข้าร่วมโครงการแล้ว 959 ล้านบาท คิดเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับความช่วยเหลือ จำ นวน 14 ราย และยังมีผู้ประกอบการอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างการติดต่อกับสถาบันการเงิน และเตรียมอนุมัติเพื่อเข้าร่วมมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้อีกจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท
นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธปท. กล่าวว่า คาดว่าภายในสัปดาห์นี้กรมสรรพากรน่าจะประกาศหลักเกณฑ์เกี่ยวกับมาตรการภาษีสนับสนุนการโอนทรัพย์สินหลักทรัพย์เพื่อชำระหนี้ตามมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ ซึ่งเชื่อว่าหากสิทธิประโยชน์ทางภาษีในส่วนนี้มีผลบังคับใช้ จะทำให้ยอด การขออนุมัติตามมาตรการพัก ทรัพย์ พักหนี้ที่อยู่ระหว่างเจรจา ทยอยเข้าสู่มาตรการเพิ่มขึ้น ซึ่ง ปัจจุบันมีหลายธุรกิจที่อยู่ระหว่าง ดำเนินการเพื่อเข้าร่วมมาตรการ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคอสังหาริม ทรัพย์ ทั้ง ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอาคารพาณิชย์ โรงพยาบาล สปา และโรงงานแปรรูปต่างๆ
นางสาวชมภูนุช ปฐมพร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน เพื่อช่วยลูกค้าเอสเอ็มอีและรายย่อยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยเริ่ม ตั้งแต่งวดการชำระหนี้เดือน ก.ค.นี้เป็นต้นไป โดยหลักเกณฑ์พิจารณาเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.- 15 ส.ค.2564
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์ นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ขอสินเชื่อที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศของรัฐ 13 จังหวัด และลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการควบคุมการประกอบกิจการของภาครัฐ โดยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 2 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค.ถึงเดือน ก.ย.2564 โดยลูกค้าจะต้องติดต่อขอรับความช่วยเหลือกับบริษัท ส่วนลูกค้าที่ยังคงสามารถประกอบกิจการ แต่รายได้ลดลง เนื่องมาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของรัฐ บริษัทจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสมเป็นรายกรณี
Reference: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์