ดันอีอีซีดึงลงทุนทั่วโลก มาบตาพุดเฟส3 เปิดบริการปี69
ดันอีอีซีดึงลงทุนทั่วโลก มาบตาพุดเฟส3เปิดบริการปี69
“บิ๊กตู่” เปิดท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 กำชับทุกส่วนเร่งเสริมศักยภาพอีอีซีให้ตอบโจทย์นักลงทุนจากทั่วโลก ปักหมุดเข้ามาลงทุน และใช้เป็นประตูการค้าเชื่อมภูมิภาค แนะใช้ช่วงไทยเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปก 2022 โปรโมต “สุริยะ” มั่นใจรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เหล็ก ปุ๋ยเคมี กนอ.คาดก่อสร้างเสร็จปี 67 เปิดให้บริการปี 69 เผยเปิดขายซอง ช่วงที่ 2 แล้ว คาดมีเอกชน 5-6 รายสนใจเข้ามาลงทุน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยในการเป็นประธานเปิด “โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1)” ผ่านระบบออนไลน์ จากห้อง PMOC ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (28 ก.พ.) ว่า โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) เป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักที่สำคัญ 1 ใน 5 ของโครงการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
“เรามุ่งหวังให้อีอีซีสร้างเศรษฐกิจชุมชน เพิ่มรายได้ให้กับคนไทย และยังเป็นประตูการค้าเชื่อมโยงสู่ภูมิภาค โดยหลายโครงการในอีอีซี มีความคืบหน้าไปพอสมควร เช่น โครงการพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ที่จะเป็นสถานที่การจัดประชุมผู้นำเอเปกปีนี้ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ตลอดปี 2565 ของไทย (APEC 2022) จึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะเปิดตัวและขับเคลื่อนการฟืนประเทศจากโควิด-19 ไปสู่อนาคต จึงขอให้ทุกส่วนเตรียมความพร้อมใช้โอกาสการเป็นเจ้าภาพเอเปก ทำให้อีอีซี และประเทศไทยเป็นจุดหมายสำหรับนักลงทุน นักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ต้องเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาห กรรม กล่าวว่า ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส 3 จะรองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและวัตถุดิบเหลวสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ตลอดจนรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล็กครบวงจร อุตสาหกรรมปุ๋ยเคมี ที่จะเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเนื่องมากมาย ตั้งบนพื้นที่ 1,000 ไร่ มีมูลค่าการลงทุน 55,400 ล้านบาท ประกอบด้วย ช่วงที่ 1 การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน งานถมทะเล และขุดลอกร่องน้ำ ประมาณ 12,900 ล้านบาท และการลงทุนท่าเรือก๊าซ ประมาณ 35,000 ล้านบาท ส่วนช่วงที่ 2 การลงทุนท่าเทียบเรือสินค้าเหลว ประมาณ 4,300 ล้านบาท และคลังสินค้าหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 3,200 ล้านบาท
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า หากโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) เสร็จสมบูรณ์จะรองรับการเติบโตของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในอนาคต เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับและขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและสินค้าเหลว รวมถึงเป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศ ที่มีความต้องการใช้บริการเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ คาดว่าโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2567 และสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2569 ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น เกิดการ ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและการลงทุนใน พื้นที่
ทั้งนี้ ล่าสุด กนอ. ได้เริ่มเปิดขายซองประกวดราคาโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 2) แปลง A มูลค่าลงทุน 4,500 ล้านบาท เช่น ท่าเรือและศูนย์การขนถ่ายสินค้าเหลว แปลง C มูลค่าลงทุน 3,500 ล้านบาท โดยการลงทุนเปิดกว้างสำหรับธุรกิจอื่นๆ และที่เกี่ยวเนื่อง คาดว่าจะมีภาคเอกชน 5-6 ราย สนใจยื่นซองเข้าเสนอราคาโครงการ
(ภาพจาก สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.))
Reference: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา