จัดงบฯ2แสนล้าน เยียวยาโควิดคลุม35ล้านคน

14 Jan 2021 594 0

          รมว.คลัง เผยโครงการ “เราชนะ” แจกเงิน 3,500 บาท 2 เดือน คาดดูแลครอบคลุม 35 ล้านคน ทั้งพ่อค้า วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ ลงทะเบียนได้ ชี้คนถือบัตรสวัสดิการรับสิทธิทั้งหมด ระบุรอบนี้วิธีลงทะเบียนจะไม่ยุ่งยาก แย้มอาจต่อ “คนละครึ่ง เฟส 3” ด้าน “สุพัฒนพงษ์” ผุดไอเดียใส่เงินในแอปพลิเคชัน “เราชนะ” ให้ประชาชนได้สิทธิ์ใช้จ่ายที่ร้านค้าไม่ต้องเบิกเงินสด อย่าง “เราไม่ทิ้งกัน” ชี้ช่วยลดความเสี่ยงจากโควิด-19 คาดใช้งบฯ ทั้งโครงการกว่า 2 แสนล้านบาท

           นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด โควิด-19 รอบใหม่ว่า จะเป็นมาตรการที่ออกมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ภาพรวมเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ควบคู่ไปกับการป้องกันการระบาดไม่ให้ขยายวงกว้าง โดยในส่วนของมาตรการเราชนะจะเป็นการช่วยเหลือในกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการดูแล ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่นอกระบบ เช่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า ผู้ขับแท็กซี่ มอร์เตอร์ไซค์รับจ้าง คาดว่ามีอยู่ราว 30-35 ล้านคนที่มีสิทธิจะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 3,500 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งกระทรวงการคลังจะนำเสนอรายละเอียดต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้งก่อนเปิดให้ลงทะเบียน

          โดยวิธีการลงทะเบียนจะไม่ยาก โดยต้องการข้อมูลส่วนตัว และเลขบัตรประชาชนเท่านั้น รอบนี้จะพยายามทำให้การลงทะเบียนง่ายขึ้นกว่ารอบแรกคือโครงการเราไม่ทิ้งกัน ส่วนความช่วยเหลือที่รัฐบาลกำหนดไว้เพียง 2 เดือนนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องประหยัดการใช้งบประมาณให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันต้องใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นกัน

          สำหรับโครงการคนละครึ่งทั้งเฟส 1 และเฟส 2 นั้น ถือว่าได้ผลตอบรับที่ดีมากจากประชาชน ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศได้มากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศที่ต้องการแรงขับเคลื่อนหลักจากการบริโภคในประเทศเป็นหลัก หลังจากที่รายได้ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งขณะนี้รัฐบาลขอพิจารณาสถานการณ์เป็นรายไตรมาสว่ายังมีความจำเป็นต้องขยายเวลาโครงการในลักษณะนี้ออกไปอีกหรือไม่

          “ไม่ได้บอกว่าจะไม่ทำต่อ ยังมีโอกาส แต่หลักการที่เราจะดูคือ เวลานี้เศรษฐกิจของเราที่เคยอาศัยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศขณะนี้ยังไม่มีเข้ามาเลย ดังนั้น ต้องใช้วิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในก่อน เราจะดูไตรมาสต่อไตรมาส ยังไม่เคยบอกว่าจะไม่ทำต่อ ต้องดูว่ากำลังซื้อของประเทศดีขึ้นหรือไม่ และประชาชนได้ประโยชน์จริงหรือไม่ ถ้าได้ประโยชน์จริง รัฐบาลยินดีจะพิจารณา” นายอาคม กล่าวพร้อมยืนยันว่า รัฐบาลมีเม็ดเงินเพียงพอที่จะนำมาใช้ในการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยขณะนี้ยังมีเงินเหลือจากในส่วนที่กู้มาตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท

          ส่วนที่มีความกังวลว่าถ้าสถานการณ์โควิดรอบนี้ยาวนานเกินกว่า 2 เดือนที่รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือในเบื้องต้นนั้น รมว.คลัง กล่าวว่า คงไม่มีใครอยากเห็นภาพแบบนั้น ดังนั้นจึงต้องพิจารณาใน 2 ส่วนควบคู่กันไป คือ ทำอย่างไรไม่ให้มีการระบาดมากไปกว่านี้ และจำกัดพื้นที่ให้ได้น้อยที่สุด ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับเรื่องเศรษฐกิจ คือให้เศรษฐกิจยังสามารถเดินต่อได้ด้วย ซึ่งการระบาดในรอบใหม่นี้ ถือว่าดีกว่ารอบก่อน เพราะรอบนี้มีความก้าวหน้าเรื่องวัคซีนที่จะนำมาใช้ ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะทำให้เกิดความมั่นใจได้มากขึ้นกว่าการระบาดรอบนี้จะไม่กินเวลายาวนาน และไม่ขยายวงกว้างมาก ซึ่งถ้าทำได้สำเร็จ ไทยจะถือเป็นประเทศแรกๆ ที่สามารถทำให้เศรษฐกิจไม่ได้หยุดชะงักท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาด

          โดยความท้าทายของปีนี้ คือทำอย่างไรให้ทั้งสองเรื่องเดินไปด้วยกันได้ สังเกตดูว่าที่โควิดระบาดรอบนี้ แม้แต่ในพื้นที่สีแดง การใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งยังเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจ ไม่ได้หยุดชะงักไปหมด ยกเว้นแต่กิจกรรมที่มีการรวมตัวกันเป็นจุดเสี่ยง เพราะคนทั่วไปยังต้องกิน ต้องใช้ ถ้าทำได้สำเร็จ เราจะเป็นประเทศแรกๆ ที่สามารถทำให้เศรษฐกิจกับเรื่องการแพร่ระบาดไปด้วยกันได้

          “เชื่อว่าในการออกมาตรการแต่ละเรื่อง รัฐบาลรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนมาโดยตลอด สำหรับมาตรการชุดแรกที่ออกมานี้ ในระยะต่อไปอาจจะพิจารณาเพิ่มเติม โดยจะพยายามให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังสามารถดำเนินต่อไปได้ เช่น อาจจะมีการช่วยเรื่องมาตรการเพิ่มสภาพคล่อง ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา”

          นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวว่า การจ่ายเงินในโครงการ “เราชนะ” เพื่อเยียวยาประชาชน 3,500 บาทเป็นเวลา 2 เดือน รูปแบบอาจจะแตกต่างไปจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน ที่สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ แต่โครงการ “เราชนะ” อาจเป็นการจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันเราชนะ แล้วให้เป็นสิทธิ์ให้ประชาชนไปใช้จ่ายในร้านค้าคล้ายกับโครงการคนละครึ่งซึ่งก็เป็น รูปแบบที่เตรียมเอาไว้ในครั้งนี้ด้วย

          “รัฐบาลคิดโดยละเอียดว่ามาตรการต่างๆ ที่มีการออกมาดูแลประชาชนครอบคลุมหลายกลุ่มหลายมาตรการที่เหมาะสม สุดท้ายแล้วมาตรการที่รัฐบาลจริงๆ ก็ไม่อยากใช้แต่จำเป็นเพราะใช้เงินเยอะมากแต่เพื่อความสุขของประชาชนนายกรัฐมนตรีก็ให้แนวคิดแบบนี้ไว้” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

          ปัจจุบันรัฐบาลเตรียมงบประมาณ ไว้ประมาณ 2 แสนล้านบาทไว้รองรับมาตรการแต่ต้องรอกระทรวงการคลังไปจัดทำรายละเอียดว่าจะมีคนเข้าร่วมโครงการเท่าไหร่ โดยมั่นใจว่าในขณะนี้ยังมีเงินเพียงพอที่จะดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบอยู่

Reference: